นายประเดิมชัย บุญช่วยเหลือ ส.ส.กทม. เขตดินแดง-ห้วยขวาง พรรคเพื่อไทย เปิดเผยว่า จากสถานการณ์คุณภาพอากาศกรุงเทพมหานครในเช้าวันนี้ โดยเฉพาะในเขตดินแดงที่ตนเองเป็นผู้แทนอยู่นั้นวัดค่าฝุ่นละอองได้ 118 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ถือว่าวิกฤติ และยังมีอีกหลายพื้นที่ที่ค่าฝุ่นละอองสูง ส่งผลกระทบต่อสุขภาพคนกรุงเทพฯอย่างร้ายแรง

นายประเดิมชัย กล่าวว่า ปัญหานี้เรื้อรังมายาวนาน ซึ่งจากที่คณะรัฐมนตรีได้ประกาศให้การแก้ไขปัญหามลพิษด้านฝุ่นละอองเป็นวาระแห่งชาติตั้งแต่วันที่ 12 กุมภาพันธุ์ 2562 จนบัดนี้เกือบ 2 ปีแล้ว การแก้ไขปัญหายังไม่มีอะไรเป็นรูปธรรม นอกจากฝุ่นพิษจะไม่ได้หายไปแล้วกลับมีปริมาณสูงขึ้น ทำให้คุณภาพชีวิตของชาว กทม. ตกต่ำลงไปเรื่อยๆ ที่ผ่านมานายกรัฐมนตรีชี้แจงว่า สาเหตุฝุ่นพิษ กทม. เกิดจากความไม่รับผิดชอบของ คน กทม. ซึ่งตนเองเห็นว่าเป็นการชี้แจงที่ขาดความรับผิดชอบ เพราะเห็นได้ชัดว่าปัญหาฝุ่นพิษเกิดจากการบริหารงานที่ผิดพลาดของรัฐบาลมากกว่า ที่ปล่อยให้มีการก่อสร้างรถไฟฟ้าพร้อมกันทั่ว กทม. ทำให้เกิดฝุ่นพิษจำนวนมหาศาล และเป็นสาเหตุของรถติด ก่อนหน้านี้ปัญหาฝุ่นเบาบางเพราะเป็นฤดูฝน แทนที่รัฐบาลจะเร่งวางแผนแก้ไขปัญหาในช่วงนั้น กลับเพิ่งมีมาตรการขับเคลื่อนวาระแห่งชาติในเรื่องนี้เมื่อปลายเดือนที่ผ่านมา โดยกำหนด 3 มาตรการหลักให้ส่วนราชการรับไปดำเนินการ จนส่งผลให้ขณะนี้สถานการณ์ฝุ่นพิษอยู่ในขั้นวิกฤติ เพราะรัฐบาลปล่อยปละละเลยไม่วางแผนรับมืออย่างจริงจัง

“รัฐบาลชุดนี้ที่ไม่ใส่ใจประชาชน วันนี้คนกรุงเทพตายผ่อนส่งเพราะจำใจสูดอากาศพิษเข้าไปทุกวัน หากยังปล่อยให้ฝุ่นพิษมีปริมาณวิกฤติแบบนี้ไปเรื่อยๆ เชื่อว่าปริมาณผู้เสียชีวิตจากโรคระบบทางเดินหายใจจะเพิ่มขึ้นอย่างก้าวกระโดดอย่างแน่นอน จึงอยากเรียกร้องให้ พล.อ.ประยุทธ์ ให้เห็นหัวคนกรุงเทพบ้าง ไม่ใช่นั่งสั่งการอยู่แต่ในห้องแอร์ หากไม่เชื่อว่าฝุ่นพิษเต็มบ้านเต็มเมืองก็ลองมาเดินพิสูจน์ที่ห้วยขวาง-ดินแดง อย่าอยู่แต่บนหอคอยงาช้างและไม่เอาจริงเอาจังกับการแก้ปัญหาอย่างนี้ ประชาชนมีแต่ตายกับตายแน่นอน” นายประเดิมชัย กล่าว