“โฆษกเพื่อไทย” ชี้ รัฐบาลไร้ประสิทธิภาพจัดการปัญหาลักลอบเข้าประเทศ ส่งผลโควิด-19 ระบาดรอบใหม่ แนะรัฐจัดการปัญหาแบบยิงศรให้ตรงเป้า ล็อกดาวน์ให้ถูกจุด
ผศ.ดร.อรุณี กาสยานนท์ โฆษกพรรค กล่าวถึงสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ว่า รัฐบาลบกพร่องในการคัดกรองแรงงานต่างด้าวเข้าประเทศอย่างผิดกฎหมาย จนเป็นเหตุให้จังหวัดสมุทรสาครเป็นแหล่งแพร่เชื้อที่กระจายรวดเร็ว โดยล่าสุดมีผู้ติดเชื้อโควิด-19 ในจังหวัดสะสม 821 ราย ซึ่ง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม และ พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค. ไร้ประสิทธิภาพการจัดการปัญหาทั้งในมิติความมั่นคงและมิติสุขภาพ ปล่อยปละละเลยให้เกิดการหลบหนีเข้าเมืองตามช่องทางธรรมชาติ แสดงให้เห็นว่า ศบค. ขาดการทำงานที่บูรณาการอย่างแท้จริง เป็นการรวบอำนาจแต่ไม่แบ่งหน้าที่ ทำงานแยกส่วน เมื่อเกิดเหตุจึงโยนความผิดกันไปมา
ผศ.ดร.อรุณี กล่าวอีกว่า รัฐบาลได้เห็นตัวอย่างการจัดการการระบาดรอบใหม่จากประเทศสิงคโปร์ ซึ่งมีแรงงานต่างด้าวจำนวนมากคล้ายกับประเทศไทย เมื่อพบโรคจึงประกาศล็อกดาวน์ในจุดต้นทางระบาดทันที เหตุใดจึงไม่นำมาปรับใช้ และเมื่อเกิดปัญหาการระบาดจากแรงงานต่างด้าวหลบหนีเข้าเมือง รัฐบาลต้องติดตามตัวเลขผู้ติดเชื้อของประเทศเพื่อนบ้านทันที เพราะจากการรายงานของ Worldometers.info เว็บไซต์รายงานข้อมูลล่าสุดที่รวบรวมจากหน่วยงานด้านสาธารณสุขทั่วโลก พบว่า เมียนมามีผู้ติดเชื้ออันดับที่ 69 ของโลก มีผู้ติดเชื้อล่าสุดอยุ่ที่ 116,134 คน มากกว่าการติดเชื้อในจีนประเทศต้นทาง ขณะที่ของไทยมีผู้ติดเชื้ออันดับที่ 151 มีผู้ติดเชื้อรวม 4,907 คน
โฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวต่อว่า จังหวัดสมุทรสาคร มีแรงงานต่างด้าวที่ลงทะเบียนถูกกฎหมาย 1.2 ล้านคน ไม่ลงทะเบียน 1.8 ล้านคน เป็นแรงงานเมียนมาร์ร้อยละ 80 ของแรงงานต่างด้าวทั้งหมด และยังมีแรงงานที่ไม่ได้ลงทะเบียนที่หลุดรอดการตรวจสอบอีกหรือไม่ ซึ่งถือเป็นหนึ่งในช่องทางการทุจริตระดับเจ้าหน้าที่ ตามรายงานของ ป.ป.ช. ในปีงบประมาณ 2562 ว่าได้รับเรื่องกล่าวหาการทุจริต ในส่วนของการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบโดยเจ้าหน้าที่ วงเงินสูงถึง 23,840 ล้านบาทหรือไม่
“พรรคเพื่อไทยขอให้รัฐใช้ข้อมูลทางสถิติ มาแก้ปัญหา หาสาเหตุของการระบาด แล้วแก้ให้ตรงจุด เพราะกระทบกับเศรษฐกิจแน่นอน โดยเฉพาะเม็ดเงินสะพัดช่วงปีใหม่ที่จะหายไปไม่ต่ำกว่า 1.3-1.5 แสนล้านบาท และจีดีพีไทยจะติดลบมากกว่า 6.0-6.5 ดังนั้น รัฐบาลต้องจัดการปัญหาแบบยิงศรให้ตรงเป้า ล็อกดาวน์ให้ถูกจุด” ผศ.ดร.อรุณี กล่าว