“โฆษกเพื่อไทย” เรียกร้อง “ประยุทธ์” จัดการปัญหาฝุ่นก่อนตั้งเรื่องซื้อเรือดำน้ำ ชี้ทุกปัญหาแก้ได้ อย่าถนัดแต่ตั้งกรรมการเพื่อยื้อเวลา
ผศ.ดร.อรุณี กาสยานนท์ โฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ปัญหา PM 2.5 ที่เกินค่ามาตรฐานจนถึงขั้นอันตรายต่อชีวิต บางพื้นที่ในกรุงเทพมหานคร ค่าฝุ่นเกินมาตรฐานกว่า 215 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร เป็นปัญหาที่เกิดขึ้นในช่วงเวลาเดิมของทุกปี วนซ้ำกลับมาเหมือนเทศกาลตายผ่อนส่ง จนทำให้กรุงเทพฯเป็นเมืองที่มีมลพิษเลวร้ายติดอันดับ 7 ของโลก ขณะที่ข้อมูลทางการแพทย์ระบุว่า ค่าฝุ่นในระดับสีม่วงเป็น อันตรายต่อคนป่วยโรคปอดและหัวใจ อาจทำให้ผู้ที่มีสุขภาพดีเกิดโรคปอดและหัวใจได้ แต่รัฐบาลยังไร้มาตรการและการวางแผนแก้ไขปัญหาอย่างเป็นระบบ ทั้งที่ต้องตระหนักว่าคุณภาพชีวิตที่ดี ชีวิตความเป็นอยู่ที่ปลอดภัย คือหน้าที่รัฐต้องจัดสรรให้ประชาชน
โฆษกพรรคเพื่อไทย จึงเสนอ 3 มาตรการเพื่อลดปัญหาค่าฝุ่น โดย
- รัฐต้องสร้างแรงจูงใจในการใช้รถไฟฟ้า ด้วยการปรับลดค่าโดยสารให้เหมาะสมกับค่าครองชีพและสถานการณ์ปัจจุบัน แต่ข้อเท็จจริงที่ปรากฏคือ ค่าโดยสารรถไฟฟ้ามีราคาสูง จนประชาชนส่วนใหญ่ไม่สามารถเข้าถึงได้
- รัฐบาลควรเร่งดำเนินการจริงจังเรื่องการวางระบบรถเมล์ไฟฟ้า เพราะในต่างประเทศระบบรถเมล์ไฟฟ้าแบบใช้แบตเตอรี่ อย่างในจีนราคาอยู่ที่คันละ 9-11 ล้านบาท หรือในยุโรปราคาอยู่ที่ 12-15 ล้านบาท แต่ถ้ารัฐพิจารณาเรื่อง การซ่อมบำรุงในระยะยาวเมื่อเทียบกับรถเมล์ดีเซลจะถูกกว่า ไม่ต้องเปลี่ยนผ้าเบรก ไม่ต้องเปลี่ยนน้ำมันเครื่อง เปลี่ยนแบตอย่างเดียวในระยะยาว 15 ปี และยังมีราคาถูกกว่ารถใช้น้ำมัน
ทั้งนี้ ตัวเลขรถเมล์ในกรุงเทพที่ ขสมก. ดำเนินการเองแบ่งเป็น รถธรรมดา 1,500 คัน ปรับอากาศ 1,400 คัน รวม 2,900 คัน เปลี่ยนเป็นรถเมล์ไฟฟ้า จะใช้งบประมาณ 29,000 ล้านบาท แค่ พล.อ.ประยุทธ์ ยุติการซื้ออาวุธเพิ่มแสนยานุภาพ แล้วนำงบประมาณส่วนนั้นมาซื้อรถเมล์ไฟฟ้าเพิ่ม ประชาชนน่าจะได้ประโยชน์มากกว่า
- รัฐบาลควรจูงใจประชาชนให้ใช้รถไฟฟ้าด้วยมาตรการทางภาษี ด้วยการสนับสนุนภาคธุรกิจเอกชนที่นำเข้ารถไฟฟ้าหรือทำกิจการรถไฟฟ้าโดยจัดเก็บภาษีให้ต่ำ เพื่อกระตุ้นการใช้รถยนต์ส่วนบุคคลแบบไฟฟ้ามากขึ้น
“ปัญหาทุกอย่างแก้ไขได้ ไม่ว่าจะเป็นปัญหา ยาเสพติด บ่อน ส่วย หรือ PM2.5 แต่อย่าแก้ปัญหาด้วยการตั้งคณะทำงาน เพราะมันสะท้อนว่ารัฐราชการนี้แก้ปัญหาไม่ได้ ทำได้แต่ยื้อเวลา ทุกวันนี้ประชาชนยอมเป็นหนี้ เพื่อทำให้คุณภาพชีวิตของเขาดีขึ้น ไม่ใช่เป็นหนี้เพื่อให้รัฐบาลเอาไปซื้อเรือดำน้ำ” ผศ.ดร.อรุณี กล่าว