“โฆษกเพื่อไทย” ถามหาระบบ Big data งบ 4,000 ล้านหายไปไหน เหตุใดยังขาดการเชื่อมโยงข้อมูลระหว่างกระทรวง จนเกิดการเรียกคืนเบี้ยยังชีพคนชราทั่วประเทศ ซ้ำเติมประชาชนที่กำลังลำบาก
ผศ.ดร.อรุณี กาสยานนท์ โฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า กรณีกรมบัญชีกลางเรียกคืนเบี้ยยังชีพผู้สูงจากยายวัย 89 ปี ย้อนหลัง 10 ปี รวมเป็นเงินกว่า 84,000 บาท โดยอ้างว่าซ้ำซ้อนกับสิทธิ์การรับเงินบำนาญพิเศษ และยังมีอีกหลายกรณีที่มีลักษณะเดียวกันอีกจำนวนมาก บางรายลูกหลานไม่มีเงินใช้ให้ จะขอติดคุกชดใช้แทน ถือเป็นภาพสะท้อนปัญหาการบริหารของรัฐบาล ที่ปล่อยให้กลไกรัฐดำเนินการโดยการผลักภาระไปให้ชาวบ้าน แทนที่จะแก้ที่ต้นตอของปัญหา โดยเฉพาะโครงสร้างระบบราชการใหญ่โต แต่ไร้ประสิทธิภาพ ขาดการทำงานบูรณาการ และขาดการเชื่อมโยงข้อมูลระหว่างกระทรวงการพัฒนาสังคมฯ ซึ่งเป็นหน่วยงานจ่ายเบี้ยคนชรา และกระทรวงการคลัง รวมถึงกระทรวงมหาดไทย ซึ่งเป็นหน่วยงานจ่ายเงินบำนาญ ทั้งที่ในปีที่ผ่านมารัฐบาลได้พัฒนาระบบคลาวด์กลางภาครัฐ (Government Data Center and Cloud Services : GDCC) วงเงินรวม 4,073 ล้านบาท ที่ควรจะเชื่อมโยงฐานข้อมูลของประชาชนทุกกระทรวง เก็บข้อมูลประชาชนทุกคน ตั้งแต่ออกจากครรภ์มารดาถึงเชิงตะกอน และยังมีคณะกรรมการ Big Data ซึ่งมีหน้าที่ขับเคลื่อนนโยบายโดยใช้ข้อมูลขนาดใหญ่ มีผู้เชี่ยวชาญเกือบ 40 คน แต่ยังขาดการเชื่อมโยง และแลกเปลี่ยนข้อมูลระหว่างกระทรวง หากรัฐใช้เครื่องมือนี้อย่างมีประสิทธิภาพ จะช่วยลดความผิดพลาดของข้อมูลการจ่ายเงินของหน่วยงานต่าง ๆ ได้
“ขอให้ประชาชนช่วยกันตรวจสอบ และรับรู้ว่าการทำงานของรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ ใช้งบประมาณจากภาษีของพี่น้องประชาชนอย่างไร้ประสิทธิภาพ หลายโครงการส่อไปในทางทุจริตคอร์รัปชันเอื้อประโยชน์ให้กับพวกพ้อง ในขณะที่ประชาชนกำลังเดือดร้อนและตกอยู่ในภาวะยากเข็ญ จึงฝากคำถามไปถึงรัฐบาลว่า รัฐราชการที่พวกท่านสร้างขึ้นอย่างแข็งแรง ได้ยกระดับชีวิตประชาชนที่อ่อนแอให้ดีขึ้นบ้างแล้วหรือไม่ จากกรณีทั้งหมดที่เกิดขึ้น พรรคเพื่อไทยจะฉายภาพความล้มเหลวและเสนอทางออกที่เหมาะสมให้แก่รัฐบาล ในศึกอภิปรายไม่ไว้วางใจที่จะถึงนี้” ผศ.ดร.อรุณี กล่าว