“ยุทธพงศ์” อัด “ประยุทธ์” หัวทีมเศรษฐกิจแต่บริหารเศรษฐกิจล้มเหลวทุกด้าน ทำพริกสด-ล็อตเตอรี่-ค่ารถไฟฟ้า แพงลิ่ว

นายยุทธพงศ์ จรัสเสถียร ส.ส.มหาสารคาม และรองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า รัฐบาลที่นำโดยพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม บริหารประเทศล้มเหลวทุกด้าน โดยเฉพาะด้านเศรษฐกิจ ราคาสินค้าปรับตัวสูงขึ้นทั้งที่ประชาชนกำลังลำบาก ล่าสุดพริกสดราคาเม็ดละ 1 บาท ซึ่งเมื่อตรวจสอบข้อมูลจากกระทรวงพาณิชย์ พบว่า ราคาพริกสดในช่วงกลางเดือนนี้ เทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว ราคาเพิ่มขึ้น 4 เท่าตัว โดยในช่วงเดือนมกราคม ปี 2563 ราคาพริกจินดาเฉลี่ยอยู่ที่ขีดละ 4.50 บาท และในเดือนมกราคมปีนี้ ราคาเฉลี่ยขีดละ 17 บาท แสดงให้เห็นว่ารัฐบาลชุดนี้ไม่ใส่ใจ และไม่มีมาตรการใดเข้ามาดูแลราคาสินค้าให้ประชาชนได้

นายยุทธพงศ์ กล่าวว่า การกลับมาระบาดของโรคโควิด-19 ทำให้คนไทยตกงานจำนวนมากและต้องหาอาชีพหาเลี้ยงครอบครัว เช่น การขายสลากกินแบ่งรัฐบาล หรือ ล็อตเตอรี่ เมื่อผู้ค้ามากขึ้นจึงทำให้ได้เห็นปัญหาว่า ผู้ค้ารายย่อยไม่สามารถที่จะขายสลากตามที่กฏหมายกำหนดที่ 80 บาท ได้เนื่องจากยี่ปั๊วคือผู้ได้โควต้าในการรับสลากมาจากกองสลากฯ รายย่อยจะรับมาจากยี่ปั๊วอีกทอดหนึ่งซึ่งต้นทุนอยู่ที่ฉบับละ 93 บาท แต่หากรับจากกองสลากฯโดยตรงต้นทุนสลากฯ จะอยู่ที่ 70 บาท จึงทำให้ผู้ค้ารายย่อยขายสลากฯ ใน 100 บาท หรือจัดชุดขายเพื่อทำกำไร แต่เมื่อขายเกินราคา 80 บาทจะถูกปรับ 2,000 บาท หากไม่ต้องการถูกจับจะต้องจ่ายส่วยกับเจ้าหน้าที่เฉลี่ยเดือนละ 600 บาท เพื่อให้ประกอบอาชีพต่อไปได้ เรื่องนี้พลเอกประยุทธ์ ที่เคยบอกว่าจะเข้ามาจัดการปัญหาในกองสลากฯโดยได้เคยมอบหมายให้ พล.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ อดีตผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) ดูแลกองสลาก แต่ไม่สามารถแก้ปัญหาได้

ขณะที่ราคาค่าโดยสารรถไฟฟ้าสายสีเขียว หลายหน่วยงาน อย่างสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) ได้เสนอให้ กทม.กู้เงินเพื่อนำไปใช้หนี้เอกชนแล้ว แต่ไม่ดำเนินการ กลับเลือกวิธีปรับขึ้นค่าโดยสาร 104 บาท เพื่อสร้างรายได้สร้างกำไรนำมาจ่ายหนี้ภาคเอกชนรวมกว่าแสนล้านบาท ทั้งที่รถไฟฟ้าคือระบบขนส่งเพื่อประชาชน

“ผมยืนยันว่าระบบขนส่งมวลชนเป็นกิจการที่รัฐต้องดูแลประชาชน ไม่ใช่กิจการที่ต้องทำให้เกิดกำไรหรือได้ผลประโยชน์สูงสุด” นายยุทธพงศ์ กล่าว