(15 มีนาคม 2564) นายชนินทร์ รุ่งธนเกียรติ รองโฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงการตรวจพบผู้ติดเชื้อโควิด-19 ที่ตลาดบางแค 90 ราย ในวันที่ 14 มีนาคม 2564 ภายในวันเดียวและยังพบผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นอีกกว่า 100 คน ว่า รัฐบาลล้มเหลว หละหลวมในการตรวจหาเชื้อเชิงรุกอย่างสิ้นเชิง แม้จะตรวจพบเชื้อมาแล้วหลายวันแต่รัฐบาลยังไม่ออกมาตรการจัดการใดๆ ให้กับประชาชนในพื้นที่บางแคและใกล้เคียง หากมีการระบาดอีกระลอก รัฐบาลจะรับผิดชอบอย่างไร ได้เตรียมปรับแผนการบริหารจัดการปันส่วนวัคซีนล็อตแรกเพื่อใช้ควบคุมพื้นที่ที่เกิดการระบาดใหม่หรือไม่ เพราะตามแผนเดิมมีการแบ่งสำรองไว้เพียงแค่ 1% จากวัคซีนที่ได้รับมาเท่านั้น หากเกิดการระบาดจากครั้งนี้ มีแนวโน้มจะต่อเนื่องไปยังพื้นที่อื่นๆอีก คล้ายกรณีตลาดกลางกุ้ง จ.สมุทรสาคร ซึ่งมีความเสี่ยงจะเป็น super spreader ในกรุงเทพมหานครและปริมณฑลระลอกใหม่หรือไม่

รองโฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวต่อว่า รัฐบาลชุดนี้ไม่มีการจัดการวัคซีนที่เป็นระบบ ดื้อดึงไม่ฟังเสียงสะท้อนของประชาชน แทงม้าตัวเดียว ผูกขาดวัคซีนแอสตร้าเซเนก้าที่มีปัญหาเรื่องผลข้างเคียงในบางประเทศ และยังไม่มีตัวเลือกอื่นๆ ขณะที่ไทยทำสัญญาสั่งซื้อวัคซีนยี่ห้อนี้คิดเป็นเงินงบประมาณ 6,000 ล้านบาท ผู้ที่เป็นถึงนายกรัฐมนตรียังไม่กล้ารับวัคซีน แล้วใครจะยอมเสี่ยง และใครจะต้องรับผิดชอบกับเงินงบประมาณที่สูญเสียไปจากการไม่รอบคอบของรัฐบาล

นายชนินทร์ กล่าวต่อว่า ความหละหลวมในทุกมิติของรัฐบาล จะฉุดรั้งและถ่วงการฟื้นตัวของประเทศให้ล้าหลังประเทศเพื่อนบ้านอย่างไร้ข้อสงสัย และจะกระทบความเชื่อมั่นของประชาชนในประเทศ กิจกรรมทางเศรษฐกิจที่หวังจะกลับมาคึกคักในช่วงเทศกาลสงกรานต์ คงต้องซบเซาไม่ต่างจากการระบาดจากตลาดกลางกุ้ง ที่เป็นเหตุให้บรรยากาศทางเศรษฐกิจในช่วงปีใหม่ไม่ฟื้นตัว

“เหตุการณ์นี้ซ้ำเติมให้คนไทยเห็นภาพความบกพร่องของรัฐบาลชัดขึ้น พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และนายอนุทิน ชาญวีรกูล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข สอบตกวิชาการจัดการปัญหาในสถานการณ์วิกฤตเบื้องต้น (Crisis management 101) อย่างรุนแรง จึงขอให้ทั้งสองท่านกลับไปทบทวนวิชานี้ เพื่อจะได้เข้าใจการแก้ปัญหาประเทศได้ดีขึ้น “ นายชนินทร์กล่าว