นายจักรพล ตั้งสุทธิธรรม ส.ส.เชียงใหม่ รองเลขาธิการ พรรคเพื่อไทย เปิดเผยว่า สถานการณ์การระบาดไวรัสโควิดในพื้นที่เชียงใหม่รุนแรงมากขึ้น ในแต่ละวันจะพบผู้ป่วยใหม่เพิ่มสูงขึ้นถึง 400 กว่าคนต่อวัน ถือเป็นตัวเลขที่น่ากังวล ทั้งๆที่มีการเฝ้าระวังกันและมีการป้องกันมาตลอด จนกระทั่งล่าสุดเกิดการระบาดในคลัสเตอร์ตลาดที่รุนแรงและรวดเร็วมาก ในขณะที่การฉีดวัคซีนกลับไม่เป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้ ส่งผลให้การป้องกันการระบาดไม่สามารถควบคุมได้

ในขณะที่รัฐบาลประกาศเปิดประเทศ หลายฝ่ายจึงเป็นกังวลว่า การเปิดประเทศ ท่ามกลางวิกฤตน่าจะเป็นไป ด้วยความลำบาก แม้จะมีการตอบรับที่ดีจากภาคเอกชน แต่ก็ติดกับดักวัคซีนที่รัฐบาลยังคงสอบตก เพราะฉีดวัคซีนเข็มแรกให้ประชาชนในพื้นที่ไม่ถึงร้อยละ 58 ในส่วนของวัคซีนเข็มที่ 2 เพียงร้อยละ 40 เท่านั้น ส่งผลให้ การตอบรับนักท่องเทียวได้อย่างไม่เต็มที่ เพราะเกิดความหวาดระแวงกันเอง ทั้งคนในพื้นที่และนักท่องเที่ยว เกรงว่าจะมีการแพร่เชื้อใหม่ ถึงอย่างไรก็ตามชาวเชียงใหม่พร้อมต้อนรับนักท่องเที่ยวด้วยความยินดียิ่ง อยากจะให้รัฐบาลช่วย สร้างความมั่นใจให้กับนักท่องเที่ยวมากกว่าที่เป็นอยู่

นายจักรพล กล่าวด้วยว่า สถานการณ์โควิดที่ผ่านมาสร้างผลกระทบให้กับภาคการท่องเที่ยวหนักมาก รายได้จากที่เคยมีอยู่ประมาณ 2 ล้านล้านบาท ต้องหาย กลายเป็น 0 ในขณะที่ภาคแรงงานตกงานกว่า 2 ล้านคน การที่จะฟื้นต้องใช้เวลาพอสมควร รวมทั้งสถาบันการเงินต้องเข้าไปช่วยเหลือ นอกจากนี้ด้านสาธารณสุขต้องทำงานเต็มที่ ในการระดมฉีดวัคซีนให้ประชาชนให้มากที่สุด เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับภาคอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวไทย ซึ่งผู้ประกอบการพร้อมให้ความร่วมมือเต็มที่

“การเปิดประเทศจะประสบผลสัมฤทธิ์หรือไม่ ขึ้นอยู่กับรัฐบาลว่ามีความตั้งใจจริงมากน้อยแค่ไหน การบริหารจัดการของรัฐต้องชัดเจน มีความก้าวหน้าในการดูแลประชาชน หน่วยงานรัฐบาลต้องมีความพร้อมทุกอย่าง ในการสตาร์ทอัพการท่องเที่ยวขึ้นมาใหม่ หากรัฐบาลพูดแต่ไม่ทำอะไร ทั้งการป้องกัน การวางแผนงานเพื่อรองรับนักท่องเที่ยวทุกด้านเชื่อว่า การท่องเที่ยวจะไม่กลับมาอย่างแน่นอน หากพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ทำเพื่อให้ผ่าน ทำเพื่อหาเสียง โดยเอาชีวิตประชาชนไปเสี่ยง ผลที่ตามมาอาจจะไม่เป็นไปตามที่รัฐบาลหวังอย่างแน่นอน” นายจักรพล กล่าว