พ.ร.บ. เด็ก พ.ศ. 2546 ครั้งแรกห้ามขายเหล้าให้เด็กต่ำกว่า 18 ปี
#ณวันนั้น 30 มีนาคม 2547 วันแรกของการบังคับใช้ พระราชบัญญัติคุ้มครองเด็ก พ.ศ. 2546
นับเป็นครั้งแรกในรอบสามสิบปี นับตั้งแต่ประกาศของคณะปฏิวัติฉบับที่ 132 และ ฉบับที่ 294 ในปี 2515 ที่มีการปรับปรุงกฎหมายคุ้มครองเด็ก
.
โดยความตั้งใจของรัฐบาลไทยรักไทยในเวลานั้น มุ่งหวังที่จะรักษาผลประโยชน์ ปกป้อง สวัสดิภาพเด็ก และสร้างบรรทัดฐานในการคุ้มครองชีวิตของเด็ก
.
จุดสำคัญของ พ.ร.บ. ฉบับนี้อยู่ที่มาตรา 45 ที่ห้ามมิให้เด็กซื้อหรือเสพสุราและบุหรี่ รวมถึงห้ามมิให้เข้าไปในสถานที่เพื่อการจำหน่าย หากฝ่าฝืนเจ้าหน้าที่สามารถเรียกผู้ปกครองมาร่วมประชุมเพื่อปรึกษาหารือ ว่ากล่าวตักเตือน หรือมีข้อตกลงร่วมกันเกี่ยวกับวิธีการและระยะเวลาให้เด็กทํางานบริการสังคมหรือทํางานสาธารณประโยชน์ ให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์วิธีการ และเงื่อนไขที่กําหนดในกฎกระทรวง ซึ่งถือเป็นครั้งแรกในสังคมไทยที่มีการออกกฏหมายห้ามเด็กอายุต่ำกว่า 18 ดื่มแอลกอฮอล์ หรือสูบบุหรี่ รวมไปถึงเข้าสถานบันเทิง
.
ภายหลังได้มีการออก พ.ร.บ.ควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ พ.ศ. 2551 เพิ่มเติมใน มาตรา 29 ระบุว่า ห้ามมิให้ผู้ใดขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์แก่
1.บุคคลซึ่งมีอายุต่ำกว่ายี่สิบปีบริบูรณ์
2.บุคคลที่มีอาการมึนเมาจนครองสติไม่ได้
หากละเมิดต้องโทษจำคุกไม่เกินหนึ่งปี หรือปรับไม่เกินสองหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
.
นอกจากประเด็นเรื่องการจำกัดอายุในการเข้าถึงสุราและบุหรี่ พระราชบัญญัติคุ้มครองเด็ก พ.ศ. 2546 ยังได้มีการบัญญัติกฎหมายกำกับการปฏิบัติต่อเด็กในหลายมาตราที่เน้นไปที่ประโยชน์สูงสุดที่ตัวเด็กจะได้รับ ซึ่งสะท้อนให้เห็นวิสัยทัศน์ของรัฐสภาในเวลานั้น ว่าให้ความสำคัญในการคุ้มครองเด็กซึ่งเป็นอนาคตของชาติ
มาตรา 22 การปฏิบัติต่อเด็กไม่ว่ากรณีใด ให้คํานึงถึงประโยชน์สูงสุดของเด็กเป็นสําคัญและไม่ให้ มีการเลือกปฏิบัติโดยไม่เป็นธรรม
มาตรา 23 ผู้ปกครองต้องให้การอุปการะเลี้ยงดูอบรมสั่งสอนและพัฒนาเด็กที่อยู่ในความปกครองดูแลของตนตามสมควร แก่ขนบธรรมเนียมประเพณีและวัฒนธรรมแห่งท้องถิ่น แต่ทั้งนี้ต้องไม่ต่ํากว่า มาตรฐานขั้นต่ำตามที่กําหนดในกฎกระทรวง และต้องคุ้มครองสวัสดิภาพเด็กที่อยู่ในความปกครองดูแลของตนมิให้ตกอยู่ในภาวะอันน่าจะเกิดอันตรายแก่ร่างกายหรือจิตใจ
สามารถศึกษาข้อมูลพระราชบัญญัติคุ้มครองเด็ก พ.ศ. 2546 ฉบับเต็มได้ที่ https://dcy.go.th/…/regulation_th_20170105023516_1.pdf
กฎหมายนี้ถูกออกมามากกว่า 18 ปีแล้ว โดยเป้าหมายเพื่อคุ้มครองสวัสดิภาพของเด็กเป็นสำคัญ ซึ่งในบริบทปัจจุบันนั้นมีความแตกต่างออกไป โลกของเราให้ความสำคัญกับสิทธิความปลอดภัยและอิสระทางความคิดมากกว่าอดีต การออกแบบกฎหมายซึ่งเป็นกรอบสำคัญในชีวิตจำเป็นต้องการมีเปลี่ยนแปลงให้เข้ากับยุคสมัยตลอดเวลา
.
น่าเสียดายที่รัฐบาลปัจจุบันไม่ให้ความสำคัญในการคุ้มครองเด็ก ทั้งดำเนินคดี จำกัดสิทธิเสรีภาพในการแสดงออก ปล่อยให้มีความรุนแรงในโรงเรียน สิ่งรัฐบาลควรเร่งทำคือ ปรับวิธีคิด มองเด็กให้สอดคล้องกับโลกในปัจจุบันมากที่สุด ไปจนถึงกฎหมายแบบใดจะเอื้อให้พวกเขาเติบโตเป็นผู้ใหญ่ที่มีคุณภาพในโลกอนาคตได้มากที่สุด