“วรชัย เหมะ” ย้อนถาม “อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ” ใครทำลายประชาธิปไตยกันแน่ ตั้งแต่ตั้งรัฐบาลในค่ายทหาร สลายการชุมนุมเลือด บอยคอตเลือกตั้ง จนนำไปสู่รัฐประหาร 22 พ.ค.2557 เตือนเลิกเอาดีเข้าตัวเอาชั่วโยนให้คนอื่นเสียที
จากกรณีนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตนายกรัฐมนตรีและหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่าพรรคเพื่อไทยว่ายังก้าวไม่พ้นตระกูลชินวัตรและหากพรรคเพื่อไทยชนะเลือกตั้งเป็นรัฐบาลอาจเจอรัฐประหารอีกนั้น นายวรชัย เหมะ อดีต ส.ส.สมุทรปราการ พรรคเพื่อไทย แกนนำคนเสื้อแดง กล่าวว่า การที่นายอภิสิทธิ์ พูดแบบนี้เหมือนจงใจให้ตระกูลชินวัตรเป็นสาเหตุของการรัฐประหาร ทั้งที่คำพูดของนายอภิสิทธิ์เองเป็นการทำลายหลักการประชาธิปไตย แต่หาเงื่อนไขเหตุผลเพื่อสนับสนุนความชอบธรรมสนับสนุนรัฐประหาร ซึ่งผิดหลักการอย่างยิ่ง แต่ถ้ามองย้อนกลับไปก็ไม่แปลกใจเพราะนายอภิสิทธิ์ ก็เคยตั้งรัฐบาลกันในค่ายทหารอย่างน่าอับอายเพื่อให้ได้เป็นนายกรัฐมนตรี เมื่อมีประชาชนไม่เห็นด้วยออกมาประท้วงว่าถ้าอยากเป็นนายกฯ ที่สง่างามก็ควรยุบสภาฯ และเลือกตั้งใหม่ แต่แทนที่นายอภิสิทธิ์จะยุบสภา กลับใช้กำลังทหารเข้าสลายการชุมนุมด้วยกระสุนจริงจนพี่น้องประชาชนเสียชีวิตไปกว่า 99 ศพ ทุกวันนี้กระบวนการยุติธรรมก็แทบจะ “ยุติ-ทำ” กันไปแล้ว
นายวรชัย กล่าวต่อว่าจากนั้นการเลือกตั้งปี 2554 ประชาชนทั้งประเทศก็เลือกพรรคเพื่อไทยชนะการเลือกตั้งได้ ส.ส.มาเป็นลำดับ 1 ได้ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร มาเป็นนายกรัฐมนตรีหญิงคนแรก ก็ไม่ใช่นายอภิสิทธิ์และผู้สนับสนุนหรอกหรือ ที่ออกมาประท้วงสร้างความวุ่นวายจนรัฐบาลยิ่งลักษณ์ตัดสินใจตามระบอบประชาธิปไตยยุบสภาและจัดให้มีการเลือกตั้งใหม่ เมื่อมีการเลือกตั้งใหม่ปี 2557 ไม่ใช่นายอภิสิทธิ์และพรรคประชาธิปัตย์อีกหรือ ที่บอยคอตการเลือกตั้ง ไม่ส่งคนลงสมัครรับเลือกตั้ง ส่วนแนวร่วมผู้สนับสนุนอย่างนายสุเทพ เทือกสุบรรณ ในขณะนั้นก็ช่วยกันขัดขวางการเลือกตั้งในทุกวิถีทาง จนการเลือกตั้งกุมภาพันธ์ 2557 ล้มเหลว และก่อม็อบปิดส่วนราชการ ไล่ล่ารัฐมนตรีไปทุกที่ ตั้งเวทีปิดกรุงเทพฯด้วยข้ออ้าง “ปฏิรูปก่อนเลือกตั้ง” จนเหตุการณ์ล่วงเลยไปสู่การยึดอำนาจในเดือนพฤษภาคม 2557 ก็ต้องถามนายอภิสิทธิ์ว่า ทั้งหมดที่กล่าวมานี้ เป็นวิถีทางประชาธิปไตยตรงไหน ต่อให้หลับตานึกภาพมันคือการสนับสนุนหาความชอบธรรมให้เกิดการรัฐประหารทั้งสิ้น
นอกจากนี้ นายวรชัย ยังกล่าวถึงนางสาวแพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าครอบครัวเพื่อไทยว่า เป็นคนรุ่นใหม่ที่มีวิสัยทัศน์ มีความรู้ มีความคิดที่จะช่วยเหลือคนยากจน มีนโยบายที่ดี ที่จะสานต่อความคิดของพรรคเพื่อไทย และถ้านางสาวแพทองธาร จะเข้ามาสู่การเมืองก็เข้ามาภายใต้กระบวนการในระบอบประชาธิปไตย ผ่านการเลือกตั้งของพี่น้องประชาชน ดังนั้นการที่นายอภิสิทธิ์พูดว่าคนในตระกูลชินวัตรจะเป็นเหตุให้เกิดรัฐประหารดูจะเป็นการสร้างเงื่อนไขเห็นชอบ เพื่อให้เกิดการทำรัฐประหารเพื่อให้ตนได้ประโยชน์ ขัดหลักประชาธิปไตย ซึ่งคำพูดนี้ไม่ควรออกมาจากปากอดีตนายกรัฐมนตรี
“ตกลงแล้ว ใครกันแน่ไม่ยอมลงสมัครรับเลือกตั้ง ใครไปชุมนุมสร้างกระแสสนับสนุนให้ทหารออกมายึดอำนาจ ดังนั้น นายอภิสิทธิ์ อย่ามาโทษว่าเป็นเพราะคนตระกูลชินวัตร ผมว่านายอภิสิทธิ์และพวกพ้องนั้นแหละ คือตัวสร้างเงื่อนไขทำลายประชาธิปไตยสนับสนุนให้มีการยึดอำนาจ ต้องเลิกดีแต่พูด เอาดีใส่ตัวเอาชั่วใส่คนอื่นเสียที” อดีต ส.ส.สมุทรปราการ กล่าว