ประยุทธ์ครองอำนาจที่ยึดมาจากประชาชน และเป็นนายกฯ ต่อเนื่อง ครบ 8 ปี ตามรัฐธรรมนูญ ได้เวลา”มียางอาย”คืนอำนาจกลับไปให้ประชาชน

8 ปี ภายใต้ระบอบการเมืองแบบ “ประยุทธ์” ซึ่งใช้อำนาจที่ยึดมาจากรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งบริหารประเทศ 4 ปีกว่า แล้วจัดแจงแก้ไขรัฐธรรมนูญให้เป็นฉบับ “เผด็จการอุ้มสม” โดยอาศัยฐานอำนาจของ 3 ป. ทั้งส่วนของกลุ่มทุน ทหาร ข้าราชการเกษียณ จัดการเลือกตั้งสร้างกลไก สว.และ พรรคการเมืองบางส่วนที่ไร้อุดมการณ์กลับคำที่ให้ไว้กับประชาชน ยกมือยอมให้ประยุทธ์เป็นนายกรัฐมนตรี จัดตั้งรัฐบาลที่ไม่เคยใส่ใจทุกข์ยากของประชาชนเข้ามาบริหารประเทศ
“ประยุทธ์” เป็นนายกรัฐมนตรีที่ไม่เคยฟังเสียงประชาชน ไม่เคยมีนโยบายที่สร้างความหวังให้ประชาชนและประเทศชาติ จะมีก็แต่มาตรการเจียดเงินมาจ่ายแจกทีละน้อย คิดแค่การแก้ปัญหาเฉพาะหน้าแบบ ”ปัดปัญหาออกพ้นตัว” มากกว่าการดำเนินนโยบายที่ส่งผลเชิงโครงสร้าง และภาพรวมของการแก้ไขปัญหาของพี่น้องประชาชนโดยเฉพาะปัญหาเหลื่อมล้ำซึ่งส่งผลในระยะยาว
การครองอำนาจยาวนานถึง 8 ปีภายใต้ฐานอำนาจ ฐานทุนที่จับมือร่วมกัน เป็นการบริหารที่สร้างผลประโยชน์ผูกขาดอย่างมหาศาลให้ประยุทธ์และพวกพ้อง เป็นการบริหารประเทศโดยผู้นำที่ขาดคุณสมบัติทุกประการ ทั้งความรู้ วิสัยทัศน์ มารยาท วุฒิภาวะทางอารมณ์ และความชอบธรรม

8 ปีภายใต้การบริหารของ “ประยุทธ์” เราได้เห็นการทำสิ่งที่ผิดให้กลายเป็นถูก แบบหน้าไม่อาย ทำลายหลักนิติธรรม นิติรัฐ เพียงเพื่อให้ตัวเองและพวกยังคงอยู่ในอำนาจต่อไปได้ พร้อมกับ
สกัดกั้นกลุ่มคนที่มีความเห็นแตกต่างในทุกรูปแบบ

วันนี้เราจึงได้เห็น วิธีการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ที่ไร้ความรับผิดชอบต่อประชาชน และ หลักการประชาธิปไตย กลายเป็นรัฐธรรมนูญที่ซ่อนเร้นอำนาจและผลประโยชน์ของผู้มีอำนาจ ซึ่ง
“ประยุทธ์และพวก” ร่วมกันออกแบบ แก้ไข เปลี่ยนแปลงรัฐธรรมนูญตามอำเภอใจ จนไม่คำนึงถึงหลักการใด ๆ

ทั้งที่ รัฐธรรมนูญในประเทศประชาธิปไตยทั่วไปเป็นกฎหมายสูงสุด ใช้เป็นหลักในการปกครองของทุกประเทศ โดยให้เกียรติให้คุณค่ากับประชาชน เห็นประชาชนเป็นใหญ่ และต้องออกแบบให้สอดคล้องกับผลประโยชน์ของประชาชน ดังนั้น รัฐธรรมนูญจึงเป็นเสมือนหลักยึด เพื่อให้เกิดระบบการเมืองที่สร้างสมดุลและคุ้มครองสิทธิ เสรีภาพตลอดจนผลประโยชน์ของทุกคนในสังคม

แต่…สำหรับรัฐธรรมนูญประเทศไทย ภายใต้การนำของ ประยุทธ จันทร์โอชา ที่ยกมือยิ้มร่ายอมรับว่าเป็นผู้นำรัฐประหารอย่างหน้าชื่นตาบาน นอกจากจะยึดอำนาจ ฉีกรัฐธรรมนูญทิ้ง ยังสร้างรัฐธรรมนูญใหม่ที่จะควบรวม ครอบอำนาจกลับมาไว้ที่ตนเองทั้งหมด ไม่เคยตระหนักรู้ว่าประชาชนส่วนใหญ่รู้สึกขมขื่นแค่ไหน ไม่เคยรู้ว่าสังคมโลกมองผู้นำประเทศไทยอย่างไร เพราะผู้นำคนนี้ ไร้สำนึกรู้ถึงความน่าละอายของการทำรัฐประหาร ที่เปฌนต้นเหตุฉุดรั้งประเทศและคุณภาพชีวิตประชาชนทุกกลุ่ม ให้ตกต่ำถึงขีดสุด

ดังนั้นการแก้ไขรัฐธรรมนูญในวันนี้ จึงไม่ได้ทำเพราะผลประโยชน์ประชาชน แต่ใช้อำนาจ
สั่งการแก้ไขเพื่อให้ตนและพวกพ้องอยู่ในอำนาจได้ยาวนานที่สุด ทำให้รัฐธรรมนูญที่เป็นกฎหมายสูงสุดของประเทศ ขาดความน่าเชื่อถือ ไร้หลักการประชาธิปไตย

….ประเทศไทย รัฐบาลไทย รัฐสภาไทย เราเดินมาถึงจุดนี้กันได้อย่างไร?

คำตอบ คือ เพราะ 8 ปีของประยุทธ์นั้นกล้ากระทำการทุกเรื่องที่ผิดหลักการ ผิดกติกาได้เพราะถือดีว่า “พวกตนยึดกุมและควบรวมอำนาจการปกครองในประเทศ” ไว้เพียงกลุ่มเดียว…ดังนั้น อยากทำอะไรก็ทำได้ไม่เกรงกลัวใคร เนื่องจากมีกลไก สว.250 คน ซึ่งล้วนเป็นอดีตผู้ใต้บังคับบัญชาและพวกพ้อง กำหนดให้มีอำนาจล้นพ้น สามารถ ควบคุมกติกา กำหนดตัวนายกรัฐมนตรี และทำทุกอย่างตามใบสั่ง โดยไม่ได้ตระหนักและคำนึงถึงเกียรติศักดิ์ศรีของตำแหน่ง สว. แต่ทำให้กลายสภาพจากที่ปรึกษาในสภาฯมาเป็นลิ่วล้อหุ่นยนต์ ยกมือเพื่ออุ้ม “ประยุทธ์”คนเดียว

แม้แต่ การครองอำนาจของนายกรัฐมนตรี ซึ่งเคยกำหนดไว้ในรัฐธรรมนูญ “เพื่อประยุทธ์และพวก”ว่าให้นายกรัฐมนตรีอยู่ในตำแหน่งต่อเนื่องได้ไม่เกิน เวลา 8 ปี ทว่ามาวันนี้ ซึ่งใกล้จะครบกำหนดการครองอำนาจ 8 ปีของนายกรัฐมนตรีที่ชื่อ ประยุทธ์ ก็เริ่มมีท่าทีจะอยู่ในอำนาจต่อเนื่องต่อไปอีก โดยไม่สนใจกรอบกติกาที่กำหนดไว้ในรัฐธรรมนูญฉบับที่สร้างขึ้นมากันเอง

การครองอำนาจบริหารประเทศจนจะครบ 8 ปี ของ “ประยุทธ์” มีแต่การทำลายความมั่งคงของประเทศ ทำลายความหวังของเยาวชนคนรุ่นใหม่ ทำลายเศรษฐกิจปากท้องของประชาชน ทำลายหลักนิติธรรมนิติรัฐ ทำลายโอกาสของประเทศ และอื่น ๆ อีกมากมาย

วันที่ 23 สิงหาคม 2565 นี้ ในโอกาสที่นายกรัฐมนตรี “ประยุทธ์” จะครองอำนาจครบ 8 ปี ขอเชิญชวนประชาชนร่วมกัน “จับตามอง” และ “เฝ้าระวัง” การสืบต่ออำนาจของนายกรัฐมนตรีและพวกพ้อง เราจะได้รู้กันว่ามีใครเป็นผู้สนับสนุน เป็นเนติบริกร เป็นผู้คุ้มครอง
สร้างเงื่อนไขและโอกาสให้ “ประยุทธ์” ยังคงนั่งอยู่ในตำแหน่งนายกรัฐมนตรีต่อไป โดยไม่รู้จักอาย และไม่สนใจว่ากำลัง “ย่ำยี” หลักการกติกาในรัฐธรรมนูญซ้ำ ๆ เป็นครั้งที่เท่าไหร่

อย่าลืมว่า …ประเทศไทยไม่ได้เป็นของ “ประยุทธ์ และพวก” แต่เป็นของประชาชนไทยทุกคน
ถึงเวลา “มียางอาย”คืนอำนาจกลับไปให้ประชาชน

ภูมิธรรม เวชยชัย
ที่ปรึกษาผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร
2 สิงหาคม 2565