“พิชัย” จี้ “ประยุทธ์” คือสาเหตุแห่งทุกข์ ฝืนอยู่ต่อมีแต่ปัญหา ชี้ 4 ความทุกข์ที่คนไทยต้องเผชิญ แนะ คนโง่ และ คนพาล ไม่ควรเป็นผู้นำ และ เลือก “เพื่อไทย” ดับทุกข์ได้
นายพิชัย นริพทะพันธุ์ รองประธานยุทธศาสตร์พรรคเพื่อไทยด้านเศรษฐกิจ กล่าวว่า ประเด็น 8 ปีของพลเอกประยุทธ์ เป็นนายกรัฐมนตรีได้สร้างปัญหาให้กับประเทศไทยมากขึ้นเรื่อยๆ เพราะนอกจากจะมีคนจำนวนมากไม่พอใจ โดยผลโหวตล่าสุดกว่า 3 แสนคนร่วมโหวต ปรากฏว่าว่า 93.17% ไม่เอาพลเอกประยุทธ์แล้ว แถมยังปรากฏข่าวคราวการวิ่งเต้นศาลรัฐธรรมนูญออกมาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งทำให้ภาพลักษณ์ของประเทศในเรื่องระบบยุติธรรมที่แย่อยู่แล้วกลับแย่ลงไปอีก ผู้ที่มีหน้าที่ชี้แจงเช่นนายมีชัย ฤชุพันธุ์ประธาน กรธ. ก็ไม่ยอมออกมาชี้แจง เหมือนตั้งใจให้คลุมเคลือเพื่อเป็นประโยชน์กับ พลเอกประยุทธ์ ทั้งนี้ โดยส่วนตัวแล้วเชื่อว่าพลเอกประยุทธ์ไปต่อได้ยากแล้ว ไม่ว่าคำตัดสินจะออกมาอย่างไร ความเชื่อมั่นและความศรัทธาของประชาชนต่อพลเอกประยุทธ์ได้หมดสิ้นแล้ว ยิ่งอยู่ต่อไปประชาชนจะมีทุกข์กันมากขึ้น เพราะพลเอกประยุทธ์กลายเป็นสาเหตุแห่งทุกข์ไปแล้ว
ทั้งนี้หากมองความทุกข์ของประชาชนจะพบว่าตอนนี้ประชาชนกำลังประสบความทุกข์ 4 เรื่องดังนี้
- ทุกข์จากการมีหนี้ หารายได้ไม่พอรายจ่าย ต้องไปกู้หนี้ยืมสิน หนี้ครัวเรือนในระบบพุ่งขึ้นมาก พุ่งสูงที่สุดในประวัติศาสตร์ชาติไทยเกือบ 15 ล้านล้านบาท พอกู้ระบบไม่ได้แล้วก็ต้องไปกู้หนี้นอกระบบที่ต้องจ่ายดอกเบี้ยมหาโหด พอชำระไม่ได้ก็ถูกซ้อม ถูกทุบตี และอีกไม่นานดอกเบี้ยก็จะขึ้นอีก เพราะสหรัฐมีแนวโน้มที่จะขึ้นดอกเบี้ยอีก อาจจะขึ้นถึง 0.75% เป็นครั้งที่ 3 ติดต่อกัน ทั้งนี้เพราะเงินเฟ้อของสหรัฐยังสูงอยู่ เมื่อสหรัฐขึ้นไทยก็อาจจะต้องขึ้นดอกเบี้ยด้วย ซึ่งภาระดอกเบี้ยจะเป็นปัญหาอย่างมากในอนาคต ทั้งหนี้สาธารณะและหนี้ครัวเรือน รวมถึงหนี้เสียของธนาคารด้วย นอกจากนี้คนไทยยังถูกโกงรายวันจาก call center โดยที่รัฐบาลช่วยไม่ได้เพราะแก้ไขไม่เป็น หรือการโกงฟอเร็กซ์ที่เป็นข่าวล่าสุด
- ทุกข์จากค่าใช้จ่ายสูง ค่าครองชีพสูง เงินเฟ้อ สินค้าแพง และล่าสุดการต้องจ่ายค่าไฟฟ้าที่แพงขึ้น หลังจากจ่ายค่าน้ำมันและค่าก๊าซหุงต้มที่พุ่งกระฉูดแล้ว ประชาชนต้องมาจ่ายค่าไฟฟ้าที่แพงขึ้นอย่างมาก แต่พลเอกประยุทธ์ กลับทำได้แค่สอนธรรมะ ทุกข์ สมุทัย นิโรธ มรรค ซึ่งหมายถึงปล่อยตามยถากรรม แทนที่จะไปแก้ไขที่เหตุ ตามที่คณะทำงานเศรษฐกิจพรรคเพื่อไทยได้เสนอไว้แล้ว ที่ท่อก๊าซพม่าก็ถูกวางระเบิด ก๊าซอ่าวไทยก็ขาด ต้องนำเข้าก๊าซ LNG ราคาแพง การลดค่าความพร้อม และไม่เร่งเจรจาแหล่งพลังงานในพื้นที่ทับซ้อนไทย-กัมพูชา และต้องขอบอกว่า ตลกร้ายเดิมยิ่งร้ายหนักขึ้น เพราะประเทศไทยมีการผลิตไฟฟ้าล้นเกิน แต่เชื้อเพลิงขาดแคลนต้องนำเข้าในราคาสูงมากแล้ว ปรากฏว่าอภิมหาเศรษฐีอันดับ 1 ล่าสุดของไทยคือผู้ผลิตไฟฟ้า แบบนี้จะไม่เรียกว่าพลเอกประยุทธ์ เอื้อประโยชน์แล้วจะเรียกว่าอย่างไร นอกจากนี้ ตอนนี้น้ำมันดิบราคาต่ำกว่า $90 ต่อบาเรลแล้ว ซึ่งต่ำกว่าราคาน้ำมันในสมัยรัฐบาลยิ่งลักษณ์ที่บาเรล ละ $110 แต่ทำไมราคาน้ำมันดีเซลในสมัยรัฐบาลยิ่งลักษณ์อยู่ที่ 29.95 บาท แต่น้ำมันดีเซลรัฐบาลปัจจุบันยังคงอยู่ที่ 34.95 บาท แสดงถึงการบริหารจัดการที่ต่างกันมาก
- ทุกข์ของการไม่มีรายได้หรือรายได้ไม่พอประทังชีวิต ทั้งนี้เกิดมาจากเศรษฐกิจไทยที่ขยายตัวต่ำมาตลอด จากการบริหารล้มเหลวของพลเอกประยุทธ์ แม้กระทั่งไตรมาสที่แล้วที่ไทยขยายได้ 2.5% แต่มาเลเซียกลับขยายได้ถึง 8.9% เวียดนามขยายได้ 7.7% และฟิลิปปินส์ขยายได้ 7.4% หรือแม้แต่สิงคโปร์ยังขยายได้ 4.8% นอกจากนี้ เวียดนามที่เคยตามหลังไทยมาตลอดกลับมีการส่งออกสูงกว่าไทยตั้งแต่ปี 2562 และล่าสุดปีที่แล้ว การส่งออกของเวียดนาม (14.4 ล้านล้านบาท) แซงการส่งออกของไทย (9.5 ล้านล้านบาท) ไปแล้วถึง 51% และคงแซงขึ้นไปอีกเรื่อยๆ ตามที่ได้เคยเตือนแล้ว หากเป็นแบบนี้อีกไม่นานเวียดนามคงแซงไทยแน่
- ทุกข์จากไม่เห็นอนาคต ไม่รู้ว่าประเทศไทยในอนาคตจะไปทางไหนมองไปไหนก็มืดมน โดยเฉพาะคนรุ่นใหม่จะไม่รู้เลยว่าจะหางานทำได้อย่างไร ที่จะมีรายได้ดีๆ อุตสาหกรรมสมัยใหม่ก็ไม่มี ธุรกิจเทคโนโลยีเหมือนประเทศอื่นก็ไม่เกิด หลายคนจึงไม่อยากมีลูก เพราะกลัวลูกเกิดมาจะลำบาก ประเทศไทยจึงมีประชากรลดลง
นี่เป็นแค่ทุกข์บางส่วนเท่านั้น ยังมีทุกข์อีกมาก และทุกข์ทั้งหมดนี้เกิดมาจากพลเอกประยุทธ์ ดังนั้นจะปลดทุกข์คนไทยได้ พลเอกประยุทธ์ต้องออกไป สังคมพูดถึงการทำร้ายทหารรับใช้ของภรรยาน้อยของ สว. ซึ่งน่าจะสะท้อนถึงปัญหาการใช้อำนาจอย่างผิดๆ และพลเอกประยุทธ์ เองก็ใช้อำนาจผิดๆ มาตลอด แถมยังไม่มีความรู้ ซึ่งไม่ควรจะอยู่ต่อไปแล้ว ดังคำสอนที่ว่า “พาโล อปริณายโก” แปลว่า “คนโง่ คนพาล ไม่ควรเป็นผู้นำ”
ทั้งนี้ คณะทำงานเศรษฐกิจพรรคเพื่อไทยอยากให้ทราบว่าพรรคเพื่อไทยได้เตรียมนโยบายและแนวทางในการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจเพื่อดับทุกข์ของประชาชนไว้แล้ว ดังนั้นหากมีการเลือกตั้งครั้งใหม่ซึ่งน่าจะเกิดขึ้นในอีกไม่นานนี้ ขอให้มั่นใจและเลือกพรรคเพื่อไทยกันมากๆ เพื่อจะเราจะได้เข้าไปแก้ปัญหาให้กับประชาชนได้อย่างเต็มที่