‘ตรีชฎา’ ซัดกลับ คนใกล้ชิด ‘ชวน’ อย่าเหมาภาคใต้เป็นสมบัติส่วนตัว ยันสมัยนายกฯยิ่งลักษณ์ทุ่มงบแสนล้านพัฒนา 5 จังหวัดอันดามัน ไล่ให้ไปดูพรรคตัวเอง ร่วมรัฐบาลประยุทธ์มีอะไรดีขึ้นบ้าง
นางสาวตรีชฎา ศรีธาดา รองโฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีนายสมบูรณ์ อุทัยเวียนกุล อดีต ส.ส.ตรัง พรรคประชาธิปัตย์ เลขานุการประธานสภาผู้แทนราษฎร (นายชวน หลีกภัย) ออกมาวิพากษ์วิจารณ์หัวหน้าพรรคเพื่อไทยถึงคะแนนเสียงจากคนภาคใต้ต่อพรรคเพื่อไทย โดยระบุว่าในช่วงที่พรรคไทยรักไทย จนถึงเพื่อไทยเป็นรัฐบาลมีการใช้นโยบายเลือกปฏิบัติ รวมถึงพาดพิงเหตุการณ์ที่ตากใบ กรือเซะออกมาโจมตีว่า เป็นการหยิบยกเรื่องในอดีตซึ่งไม่เป็นความจริงมากล่าวอ้างหวังทำให้ตัวเองดูดีขึ้นด้วยการทับถมคนอื่นถือเป็นการเมืองที่ไม่สร้างสรรค์
ทั้งนี้ เมื่อครั้ง ดร.ทักษิณ ชินวัตร และนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร เป็นนายกรัฐมนตรี ได้ออกนโยบายสำคัญๆ ที่นำไปสู่ปฏิบัติทั่วทั้งประเทศ พี่น้องประชาชนคนไทยทุกคนได้ประโยชน์จากนโยบายอย่างเท่าเทียมและทั่วถึง ได้รับการยอมรับ กล่าวขวัญจากนานาประเทศ และยังเป็นนโยบายหลักที่ยังใช้อยู่จนถึงปัจจุบัน และไม่เคยเลือกปฏิบัติโดยเฉพาะการพัฒนาภาคใต้ เมื่อครั้งที่นางสาวยิ่งลักษณ์เป็นนายกรัฐมนตรี ได้เดินทางไปประชุม ครม.สัญจร ที่จังหวัดภูเก็ตเมื่อวันที่ 20 มีนาคม 2555 มีมติเห็นชอบกรอบแผนงาน/โครงการพัฒนากลุ่มจังหวัดภาคใต้อันดามัน 5 จังหวัด ได้แก่ ภูเก็ต พังงา กระบี่ ตรังและระนอง จำนวน 117 โครงการ วงเงินงบประมาณ 84,064 ล้านบาท เช่น โครงการก่อสร้างสะพานท่าเทียบเรือเพื่อการท่องเที่ยว ,โครงการพัฒนาแหล่งน้ำ เป็นต้น นี่เป็นตัวอย่างหนึ่งเท่านั้น ยังมีการพัฒนาอื่นๆ อีกมากที่ยังไม่ได้กล่าวถึง จึงเป็นไปไม่ได้และไม่เป็นความจริงที่พรรคไทยรักไทย พลังประชาชนและเพื่อไทย จะเลือกปฏิบัติดังที่นายสมบูรณ์วิพากษ์วิจารณ์ให้ได้รับความเสียหาย และสุ่มเสี่ยงต่อการกระทำผิดกฎหมายเลือกตั้ง
นางสาวตรีชฎากล่าวว่า เป็นที่น่าเสียดายที่เกิดการรัฐประหารเมื่อปี 2549 พรรคไทยรักไทยถูกยุบพรรคอย่างไม่เป็นธรรม กรรมการบริหารพรรคถูกเพิกสิทธิเลือกตั้ง 5 ปี เมื่อมีการเลือกตั้งพรรคพลังประชาชน ได้เป็นรัฐบาลก็ชนะการเลือกตั้งด้วยเสียงข้างมาก แต่ก็ถูกกลไกทางอำนาจทำลายให้ต้องพ้นตำแหน่งจนมาถึงการยุบพรรค และหากนางสาวยิ่งลักษณ์ไม่ถูกกลเกมวิชามารของนักการเมืองและพรรคการเมืองบางพรรค สร้างสถานการณ์ให้วิกฤตเพื่อเปิดทางให้เกิดการยึดอำนาจเมื่อวันที่ 22 พฤษภาคม 2557 แล้วมีการสืบทอดอำนาจมาถึงปัจจุบันเป็นเวลากว่า 8 ปี บ้านเมืองจะเจริญก้าวหน้ากว่านี้ ระบอบประชาธิปไตยจะมีความมั่นคง ประชาชนจะอยู่ดีมีสุข ไม่เป็นหนี้เป็นสินและไร้อนาคตดังที่ประสบอยู่ทุกวันนี้ และอยากตั้งคำถามถึงนายสมบูรณ์ว่า อยู่ในสถานะอะไรที่ออกมาพูดจาฝากนโยบาย 10 ข้อเกี่ยวกับภาคใต้ ให้พรรคการเมืองต่างๆไปตอบ พรรคประชาธิปัตย์เป็นพรรคร่วมรัฐบาลมากี่ปีแล้ว เหตุใดจึงไม่ทำตามนโยบาย 10 ข้อที่ฝากให้พรรคทำ และเหตุใดจึงปล่อยให้การปฏิรูปการศึกษาและตำรวจล้มเหลว เหตุใดจึงปล่อยให้ยาเสพติดเต็มบ้านเต็มเมือง เหตุใดจึงปล่อยให้ปัญหาเศรษฐกิจจมดิ่ง เกษตรกรยากจน พืชไร่ขายไม่ได้ราคา ปัญหาสังคม ปัญหาอาชญากรรม กราดยิง พ่อฆ่าลูก ลูกฆ่าพ่อ เพราะพิษภัยจากยาเสพติดที่ระบาด อดีตคือสิ่งสะท้อนปัจจุบัน แต่ปัจจุบันพรรคประชาธิปัตย์ในฐานะพรรคร่วมรัฐบาลนั้นได้ทำอะไรเพื่อประชาชนบ้างหรือไม่
“พรรคเพื่อไทยไม่ได้เป็นพรรคประเภทนักเลงอันธพาล ไม่ใช่พรรคที่ชอบระรานพูดจาให้ร้ายคนอื่นหรือพรรคอื่นอย่างไม่เป็นธรรม ถ้าพรรคเพื่อไทยไม่เป็นที่เชื่อถือศรัทธาของประชาชนทั้งประเทศ ในทุกภูมิภาค เป็นไปได้หรือที่จะชนะการเลือกตั้งได้ที่นั่ง ส.ส.ในสภา เป็นอันดับ 1 มาทุกครั้ง พรรคเพื่อไทยจะได้กี่คะแนนเสียงจากภาคใต้อยู่ที่ประชาชนไม่ใช่คำพูดให้ร้ายของคน ช่วงเวลา 8 ปีกับเหตุการณ์วิกฤตของบ้านเมืองจะเป็นสิ่งที่จะช่วยให้พี่น้องทั้งประเทศตัดสินใจได้ว่า เพื่อไทยแลนด์สไลด์ไม่เกินจริง” นางสาวตรีชฎากล่าว