อนุสรณ์ ชี้ ประยุทธ์ เสพติดอำนาจ แนะ แก้รธน.มาตรา 272 ปิดสวิตช์ ส.ว.โหวตนายกฯ
นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด รองเลขานุการคณะกรรมการยุทธศาสตร์และทิศทางการเมืองพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ประกาศเป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรครวมไทยสร้างชาติ ว่า การที่พล.อ.ประยุทธ์ จำเป็นต้องประกาศอาจเพราะจำนนต่อสถานการณ์ เพราะหากไม่ประกาศ ส.ส.ก็ไม่กล้าย้ายตาม เมื่อได้ส.ส.ไม่ถึง 25 คน พรรครวมไทยสร้างชาติ ก็ไม่สามารถเสนอชื่อนายกฯได้พล.อ.ประยุทธ์ มีพฤติกรรมย้อนแย้งไม่พูดอะไรตรงไปตรงมา การอ้างเหตุที่ตัดสินใจประกาศเป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรครวมไทยสร้างชาติ เพราะพรรคพลังประชารัฐได้ประกาศเสนอชื่อพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคเป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีไปแล้วนั้น เป็นการพูดเอาดีใส่ตัวเอาชั่วใส่คนอื่น ตีกินทางการเมืองหรือไม่ ข้อเท็จจริงคือพล.อ.ประยุทธ์ ชิงออกจากพรรคพลังประชารัฐไปอยู่พรรครวมไทยสร้างชาติก่อนที่พรรคพลังประชารัฐจะเสนอชื่อพล.อ.ประวิตรเป็นแคนดิเดตนายกฯ การตั้งนายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค หัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติไปเป็นนายกน้อยในตำแหน่งเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ถือเป็นใบเสร็จว่ามีการวางแผนเตรียมการกันมาก่อน และเป็นผลประโยชน์ต่างตอบแทนหรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ อยู่มา 8 ปี ทำประเทศหนี้ล้น ประชาชนหนี้ท่วม อีก 2 ปี ที่เป็นนายกฯได้ ยังเสพติดอำนาจ ถ้าอยากได้ไคร่มีในเก้าอี้นายกรัฐมนตรี แต่อยู่แล้วสร้างปัญหาต่อ ก่อปัญหาใหม่ ประชาชนไม่ได้ประโยชน์อะไร ใครก็ตามที่จะเข้าสู่อำนาจ ต้องมาจากการเลือกตั้งของประชาชน ด้วยกติกาที่เป็นธรรม ถ้ายังหวังใช้เสียง 250 ส.ว.โหวตเลือกเข้ามาเป็นนายกฯอีก จะถูกเย้ยหยัน ไร้ศักดิ์ศรี ไม่ได้รับการยอมรับ ขาดความสง่างาม
“พล.อ.ประยุทธ์ ควรส่งสัญญาณให้มีการแก้ไขรัฐธรรมนูญ มาตรา 272 ปิดสวิตช์ ส.ว. โหวตเลือกนายกฯ เพื่อให้ได้นายกฯ ที่มีเกียรติและศักดิ์ศรี เป็นที่ยอมรับของประชาชน” นายอนุสรณ์ กล่าว