เพื่อไทยร่วมยินดีทุกคู่รักร่วมจดทะเบียนสมรสเท่าเทียมวันแรก ‘จิราพร’ ชี้ กฎหมายสมรสเท่าเทียมเป็นเครื่องพิสูจน์ว่า ไทยให้ความสำคัญกับสิทธิมนุษยชน
(23 มกราคม 2568) ในงานสมรสเท่าเทียม Marriage Equality ที่ห้างสรรพสินค้าสยามพารากอน มี รัฐมนตรี สส. สก. และสมาชิกพรรคเพื่อไทย เข้าร่วมงาน นำโดยนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีคนที่ 30 นางสาวจิราพร สินธุไพร รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี สส.ร้อยเอ็ด นายสรวงศ์ เทียนทอง รัฐมนตรีกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา และ สส.สระแก้ว นางสาวธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย และ สส.กทม. นายจักรพล ตั้งสุทธิธรรม ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา นางสาวลิณธิภรณ์ วริณวัชรโรจน์ สส.บัญชีรายชื่อ และรองเลขาธิการพรรค นายดนุพร ปุณณกันต์ สส.บัญชีรายชื่อ และโฆษกพรรค นางสาวขัตติยา สวัสดิผล สส.บัญชีรายชื่อ และรองโฆษกพรรค นายชนินทร์ รุ่งธนเกียรติ สส.บัญชีรายชื่อ และรองโฆษกพรรค นางสาวชญาภา สินธุไพร สส.ร้อยเอ็ดและรองโฆษกพรรค นางสาวเพ็ญชิสา หงษ์อุปถัมภ์ชัย สส.บัญชีรายชื่อ เข้าร่วมงาน
นางสาวจิราพร ได้รับมอบหมายจากแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กล่าวบนเวทีว่า ที่แห่งนี้อบอวลไปด้วยความสุขและความรักที่มีความเท่าเทียม เป็นความรักที่ได้รับการรับรองอย่างถูกต้องตามกฎหมาย ในฐานะตัวแทนของรัฐบาลขอแสดงความยินดีเป็นอย่างยิ่งกับทุกท่าน พร้อมยืนยันความมุ่งมั่นของรัฐบาล นายกรัฐมนตรีเศรษฐา ทวีสิน ที่เดินหน้าผลักดันให้เกิดความเท่าเทียมในสังคม ซึ่งน่าจะเป็นครั้งแรกที่นายกรัฐมนตรีเปิดทำเนียบเพื่อต้อนรับเชิญชวนทุกภาคส่วนเข้ามาพูดคุยกัน ทั้งตัวแทนจากภาคประชาชน องค์กรด้านความเท่าเทียม พี่น้องข้าราชการ นักการเมือง มาหารือกันร่วมกันเดินหน้าผลักดันกฎหมายฉบับนี้ให้สำเร็จ
ความสำเร็จของกฎหมายฉบับประวัติศาสตร์นี้ นอกจากความมุ่งมั่นของรัฐบาลแล้ว สิ่งที่สำคัญคือ แรงสนับสนุนที่สำคัญจากทุกภาคส่วน ทั้งภาคประชาชนที่แข็งแกร่ง ภาคเอกชนที่พร้อมสนับสนุน ภาคราชการที่พร้อมปรับตัวกับการเปลี่ยนแปลงของโลก ภาคการเมืองที่ทำงานร่วมกันอย่างหนัก จนกฎหมายฉบับนี้ได้รับความเห็นชอบอย่างถล่มทลาย และที่สำคัญที่สุด คือ พี่น้องประชาชนชาวไทยที่มีหัวใจเปิดกว้าง การมีกฎหมายสมรสเท่าเทียมฉบับนี้ เป็นเครื่องพิสูจน์ว่าประเทศไทยให้ความสำคัญกับสิทธิมนุษยชน และจะเป็นก้าวสำคัญของการเดินไปสู่สังคมที่เปิดกว้าง ยอมรับความหลากหลาย และลดการเลือกปฏิบัติต่อผู้มีความหลากหลายทางเพศ
นอกจากนี้ กฎหมายสมรสเท่าเทียม ไม่ใช่เพียงการให้สิทธิจดทะเบียนสมรสเท่าเทียมเท่านั้น แต่คู่รักมีสิทธิที่จะดูแลกันและกันตามกฎหมายได้ เช่น ทำพินัยกรรม รับมรดก เข้าถึงสิทธิสวัสดิการ สิทธิประโยชน์ทางสังคมต่างๆ เช่นเดียวกันกับคู่รักทุกเพศ เป็นหลักประกันให้กับทุกคนในการปลดปล่อยศักยภาพ เพื่อสร้างความฝัน เพื่อสร้างความมั่นคงให้กับชีวิตของตัวเองได้อย่างมีเกียรติ มีศักดิ์ศรี
แม้เราจะก้าวผ่านมาตรฐานสำคัญไปอีกขั้น แต่การต่อสู้ยังไม่สิ้นสุด รัฐบาลภายใต้การนำของนายกรัฐมนตรีแพทองธาร ชินวัตร พร้อมจะสนับสนุน อำนวยความสะดวกการเปลี่ยนไปสู่ความเท่าเทียมผ่านการรับฟังอย่างรอบด้าน ครบถ้วน จะเป็นการสร้างความเปลี่ยนแปลงแบบที่ไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง เราจะเดินไปข้างหน้าพร้อมๆ กัน
“กฎหมายสมรสเท่าเทียมจะเป็นอีกหนึ่งก้าวสำคัญ ที่เราจะสามารถ ร่วมกันสร้างสังคมที่เราทุกคนจะมีสิทธิเท่าเทียมกัน โดยไม่คำนึงถึงเพศสภาพ เชื้อชาติ ศาสนา หรือความเชื่อทางการเมือง ทำให้ทุกตารางนิ้วของประเทศไทยของเราเป็พื้นที่ปลอดภัยและน่าอยู่สำหรับทุกเพศและทุกคน”
นายสรวงศ์ เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เลขาธิการพรรค และ สส.สระแก้ว พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ขอแสดงความยินดีกับคู่รักทุกคน ที่ผ่านมาการทำงานของคณะ กมธ. วิสามัญพิจารณาร่าง พ.ร.บ. แก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. …. หรือ พ.ร.บ. พ.ร.บ.สมรสเท่าเทียมที่มีนายดนุพร ปุณณกันต์ สส.บัญชีรายชื่อ ในฐานะประธาน กมธ.สมรมเท่าเทียม ประชุมรวมกับคณะ กมธ. 12 ครั้ง กว่าจะมีวันนี้ ขอขอบคุณทุกภาคส่วนที่ทำให้มีวันนี้ขึ้นมา
ความเท่าเทียมของทุกคนไม่เหมือนกัน ความเท่าเทียมของพรรคเพื่อไทย คือ โอกาส นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี พูดเสมอ ซึ่งเป็นสิ่งที่รัฐบาลนี้หยิบยื่นให้ทุกคน ยินดีกับทุกคนจริงๆ หากประเทศไหนปิดกั้น ประเทศนี้พร้อมเปิดรับ เข้ามาเยอะๆ จะช่วยเพิ่มจำนวนนักท่องเที่ยวมากขึ้น ยินดีกับทุกท่านจากใจ
#พรรคเพื่อไทย #สมรสเท่าเทียม #LGBTQ