‘แพทองธาร ชินวัตร’ นายกรัฐมนตรี ชื่นชมไอเดียคณะผู้ประกอบการรุ่นใหม่ YEC ย้ำรัฐบาลให้ความสำคัญกับ SMEs พร้อมประสานพลังเอกชน ประชาชน สร้างเศรษฐกิจเติบโต

.

วันที่ 13 มีนาคม 2568 ที่ตึกสันติไมตรี (หลังนอก) ทำเนียบรัฐบาล นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี พบปะให้โอวาทแก่ผู้ประกอบการรุ่นใหม่ หรือ YEC : Young Entrepreneurs Chamber of Commerce จาก 76 จังหวัดทั่วประเทศ รวมทั้งผู้แทนที่เข้ารับการอบรมโครงการพัฒนาศักยภาพผู้นำคลื่นลูก ใหม่ (Young public and private collaboration) YPC จังหวัดระยองและจังหวัดนนทบุรี โดยมีนายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง นายพิชัย นริพทะพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ และนายสนั่น อังอุบลกุล ประธานกรรมการหอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย พร้อมด้วยนายอิสระ ว่องกุศลกิจ ประธานกิตติมศักดิ์หอการค้าไทย ดร.กฤษณะ วจีไกรลาศ กรรมการเลขาธิการหอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย เข้าร่วม

.

ประธานกรรมการหอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย กล่าววัตถุประสงค์การเข้าพบนายกรัฐมนตรี  เพื่อรับทราบนโยบายและแลกเปลี่ยนจากแนวคิดของผู้ประกอบการรุ่นใหม่ YEC ที่ระดมแนวคิดมาจาก 7,000 คนทั่วประเทศ ในการพัฒนาเชิงพื้นที่จังหวัดและประเทศ ครอบคลุมทั้งการส่งเสริมและเพิ่มขีดความสามารถของ SMEs การท่องเที่ยวเชื่อมโยง Soft Power การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน และกระจายความเจริญสู่ภูมิภาค 

.

โอกาสนี้ ผู้แทน YEC หอการค้าจังหวัดทั่วประเทศ เสนอแนวคิดและแนวทางการพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศ เพื่อขับเคลื่อนการพัฒนาที่สำคัญทั้งในระดับจังหวัดและระดับประเทศ จำนวน 10 ประเด็น ดังนี้

.

1. YEC หอการค้าจังหวัดเชียงใหม่ มุ่งหวังให้ภาครัฐสนับสนุน Micro SMEs เข้าสู่ระบบอย่างถูกต้อง เพื่อให้สามารถได้สิทธิประโยชน์ทางภาษีและความช่วยเหลือ สนับสนุน ต่างๆ และในอนาคต ถือเป็นรากฐานสำคัญของการขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทย 

.

2. YEC หอการค้าจังหวัดนครราชสีมา เสนอให้มีการบรรจุวิชาภาษีในหลักสูตรการศึกษาแต่ละระดับ การปลูกฝังความรู้เรื่องภาษีและความรับผิดชอบทางการเงินตั้งแต่ระดับการศึกษาขั้นพื้นฐานเป็นสิ่งสำคัญ 

.

3. YEC หอการค้าจังหวัดระยอง เสนอว่าจังหวัดระยองมีการลงทุนมากอย่างต่อเนื่อง ดังนั้น การสนับสนุนมาตรการลดหย่อนภาษีนิติบุคคล เพื่อส่งเสริมการลงทุนและเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของผู้ประกอบการภายในประเทศจะเป็นประโยชน์ต่อเศรษฐกิจโดยรวม โดยเฉพาะในพื้นที่กลุ่มจังหวัด EEC

.

4. YEC หอการค้าจังหวัดสมุทรสาคร เสนอการบริหารจัดการแรงงานต่างด้าวตั้งแต่ต้นอย่างเป็นระบบ จะทำให้โครงสร้างพื้นฐานทางเศรษฐกิจและสังคมของจังหวัดได้รับการพัฒนาอย่างสมดุลและเหมาะสม 

.

5. YEC หอการค้าจังหวัดอุดรธานี เสนอว่าการพัฒนาการท่องเที่ยวแบบ Long Stay และ Workation จะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจและกระจายรายได้ไปยังภูมิภาค และเชื่อมโยงเรื่อง Soft Power เช่น Culture และ Wellness ที่เป็นจุดเด่นของแต่ละพื้นที่มาเสริมก็จะทำให้เกิดการพำนักที่นานมากขึ้น

.

6. YEC หอการค้าจังหวัดปราจีนบุรี เสนอแนวทางการส่งเสริมการท่องเที่ยวแบบ Hidden Gems ผ่าน Soft Power ที่เน้นอัตลักษณ์ท้องถิ่นเพื่อกระจายรายได้สู่ชุมชน

.

7. YEC กรุงเทพมหานคร เสนอว่าประเทศไทยควรมี AI Center เพื่อส่งเสริมการลงทุนด้านเทคโนโลยีและนวัตกรรม ให้สามารถแข่งขันกับประเทศเพื่อนบ้านในภูมิภาคอาเซียน และให้ผู้ประกอบการรายย่อยของไทยเข้าถึงการใช้ AI ได้มากขึ้น

.

8. YEC หอการค้าจังหวัดระนอง เสนอเรื่องการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานและโลจิสติกส์ในภาคใต้โดยเฉพาะฝั่งอันดามัน จำเป็นต้องมีการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านโลจิสติกส์ Andaman railway ทางคู่ ชุมพร-ระนอง MR8 และเชื่อมจากระนองไปยังสตูลให้สามารถเชื่อมโยงการเดินทางได้อย่างมีประสิทธิภาพ

.

9.  YEC หอการค้าจังหวัดนครศรีธรรมราช เสนอการจัดสรรงบประมาณเพื่อสนับสนุนโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจเร่งด่วนในระดับจังหวัด จึงควรมีงบกลางไว้สำหรับพิจารณาสนับสนุนให้มีความยืดหยุ่นและสามารถจัดสรรงบประมาณได้ทันต่อสถานการณ์

.

10. YEC หอการค้าจังหวัดกำแพงเพชร เสนอแนวคิดว่า การแลกเปลี่ยนความคิดเห็นระหว่างคน รุ่นใหม่ อย่างเช่น YEC และรัฐบาลโดยการประชุมและแลกเปลี่ยนความคิดเห็นระหว่าง YEC ทั่วประเทศกับท่านนายกรัฐมนตรีได้โดยตรง ซึ่งหากมีการพบกันอย่างต่อเนื่องเช่น ไตรมาสละครั้ง หมุนเวียนไปแต่ละภาค ก็จะทำให้เกิดพลังคนรุ่นใหม่ในการขับเคลื่อน

.

โอกาสนี้ นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า สิ่งหนึ่งที่สนับสนุนมาตลอด คือ การเรียนรู้ อายุเท่าไหร่ก็ได้ ไม่สำคัญ มีสิทธิเรียนรู้จากทุกคน สิ่งสำคัญคือ ต้องเปิดใจก่อนว่า เราสามารถเรียนรู้สิ่งต่าง ๆ จากคนอื่นได้

.

นายกรัฐมนตรีกล่าวย้ำว่า ช่วงนี้เป็นช่วงที่รัฐบาลอยากสื่อสารเรื่องการกระตุ้นเศรษฐกิจ สิ่งที่สำคัญ คือ การทำงานอย่างบูรณาการทุกภาคส่วน ทั้งภาคเอกชน ภาครัฐ และภาคประชาชน สามภาคนี้ต้องร่วมมือกัน  เพราะเศรษฐกิจเป็นเรื่องที่ใหญ่ เกี่ยวกับปากท้อง ประเทศชาติ ที่ทุกคนต้องช่วยกัน ต้องมองภาพว่า รัฐบาล ประชาชน เอกชน คือหุ้นส่วนกัน ขาใดขาหนึ่งจะอ่อนแอไม่ได้ ต้องช่วยกัน   ถ้าภาครัฐมุ่งทำงาน โดยไม่อาศัยเอกชน เศรษฐกิจจะไม่สามารถเติบโตได้ ต้องอาศัยทุกฝ่ายช่วยกัน วันนี้  ยินดีที่เห็นคนรุ่นเดียวกัน มาขยายต่อยอดในสิ่งที่มีอยู่ที่ทำไว้แล้ว ความมุ่งมั่นเมื่อได้ลงมือทำ เป็นสิ่งที่ประเมินค่าไม่ได้และเป็นสิ่งที่เกิดผลได้อย่างชัดเจน 

.

นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า การแลกเปลี่ยนความคิดเห็นระหว่างคนรุ่นใหม่ และรัฐบาลอย่างใกล้ชิด ถือเป็นข้อเสนอที่ดีมาก ๆ มีไอเดียมากมายที่มีประโยชน์ ซึ่งรัฐบาลสามารถเรียนรู้จากทุกคนได้  รัฐบาลจะได้ฟังว่าแต่ละจังหวัดมีความคิดเห็นหรือไอเดียที่สำคัญ เพื่อให้ประเทศชาติได้พัฒนา ซึ่งจะได้ใจประชาชน และเกิดประสิทธิภาพด้วย 

.

นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า SMEs มีประมาณ 75% ของประเทศ เพราะฉะนั้น รัฐบาลโดยกระทรวงการคลัง จะออกนโยบายต่างๆ เพื่อผลักดันและช่วยเหลือ SMEs ให้สามารถผ่านวิกฤตต่าง ๆ ฟื้นกลับมาได้ ขอย้ำว่ารัฐบาลให้ความสำคัญที่จะสนับสนุน SMEs ไทยต่อไป

.

“วันนี้ขอให้กำลังใจทุกท่าน เป็นกำลังสำคัญที่จะช่วยพัฒนาประเทศชาติของเราให้พัฒนาอย่างยั่งยืนและมั่นคง ต้องอาศัยความร่วมมือจากทุกภาคส่วนจะทำให้ประเทศของเราก้าวไปข้างหน้าอย่างแข็งแรงและมั่นคงได้” นายกรัฐมนตรีกล่าว

#พรรคเพื่อไทย #แพทองธารชินวัตร #YEC #SMEs