นายดนุพร ปุณณกันต์ สส.บัญชีรายชื่อ โฆษกพรรค และนางสาาวขัตติยา สวัสดิผล สส.บัญชีรายชื่อและรองโฆษกพรรค เขียนข้อความบน X แสดงความเห็นกรณีที่นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน กล่าวคำหยาบคายระหว่างให้สัมภาษณ์เรื่องปลาหมอคางดำพาดพิงถึงนายกรัฐมนตรี
ว่าผิดหวังกับวุฒิภาวะของการเป็น สส.ที่ควรใช้เหตุผลอย่างสุภาพชน มีอารยะ แต่กลับประจานความไร้วุฒิภาวะ หยาบคายและบิดเบือนอย่างไร้กาลเทศะ พร้อมห่วงใยว่าจะเป็นตัวอย่างที่ไม่ดีแก่เยาวชนและประชาชน โดยนายดนุพร เขียนข้อความดังนี้
.
“ผิดหวังกับพรรคประชาชนที่ปล่อยให้คุณวิโรจน์ ออกมาใช้ถ้อยคำกระทบกระเทียบ ที่ล่อแหลมออกมาดูหมิ่นต่อว่า นายกรัฐมนตรี ซึ่งคำว่าอะไรนั้นผมไม่กล้าพิมพ์ออกสื่อในที่สาธารณะเลยจริงๆครับ เป็นการใช้ถ้อยคำหยาบคายเพื่อใช้ประโยชน์ในทางการเมือง ไม่เป็นตัวอย่างที่ดีแก่เยาวชน และประชาชนทุกคน
.
พวกเราทำงานกันอย่างเต็มที่ในทุกๆวัน ท่านนายกมีภารกิจทุกวัน และท่านทำอย่างตั้งใจ ไม่ว่าจะมีคำต่อว่าอะไร พวกเรารับฟัง ซึ่งผมไม่ขออะไรมากครับ ขอแค่เพียงให้เกียรติซึ่งกันและกันเท่านั้นพอ
.
ผมหวังว่าในการอภิปรายไม่ไว้วางใจที่จะเกิดขึ้นในเร็วๆนี้ หัวหน้าพรรคประชาชนจะควบคุมลูกพรรคของท่านให้อภิปรายอยู่ในลักษณะสุภาพชน ซึ่งเป็นสิ่งที่วิญญูชนทั่วไปพึงมี และท่านในฐานะสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ขอให้ดำเนินการอภิปรายด้วยความมีอารยชน มีเหตุผล สัมมาคารวะ และกาลเทศะ ครับ”
.
ด้านนางสาวขัตติยา สวัสดิผล สส.บัญชีรายชื่อและรองโฆษกพรรค เขียนข้อความบน X เช่นกันว่าการใช้คำพูดที่หยาบคายออกหน้าสื่อของนายวิโรจน์ สะท้อนวุฒิภาวะทางอารมณ์ของตนเองอย่างน่าละอาย โดยมีข้อความว่า
.
“เข้าใจว่าท่าน สส. ฝ่ายค้าน ต้องการตีวาทกรรมเพื่อเรียกกระแสความสนใจ ก่อนจะถึงศึกอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลที่กำลังจะถึงในอีกไม่กี่วันข้างหน้า
.
แต่เดียร์คิดว่า การเลือกใช้คำพูดว่า “ไม่รู้สี่..รู้แปด” ที่ท่านพูดต่อหน้าสื่อ ไม่ได้เป็นการสะท้อนถึงการบริหารงานของรัฐบาลหรอกค่ะ มันสะท้อนถึงวุฒิภาวะทางอารมณ์ของผู้พูดเองมากกว่า
.
การจงใจใช้ถ้อยคำเสียดสีที่ไม่เหมาะสมเช่นนี้กับผู้นำของประเทศ ไม่ได้ทำให้ภาพลักษณ์ของฝ่ายค้านดูดีขึ้นมาเลยในสายตาของประชาชนจำนวนมาก มันเป็นการประจานและตั้งคำถามกลับไปยังตัวท่านมากกว่า ว่าการใช้ถ้อยคำหยาบคายและบิดเบือนข้อเท็จจริงเช่นนี้ ตัวท่านหวังผลทางการเมืองอะไรหรือไม่
.
เพราะหากตามจากรายงานข่าวก็จะเห็นได้อย่างชัดเจนว่า รัฐบาลก็ไม่ได้นิ่งนอนใจกับความทุกข์ร้อนของพี่น้องประชาชนแต่อย่างใด ท่านนายกฯ ได้ส่งตัวแทนออกไปรับเรื่องและสั่งการให้เร่งดำเนินการแก้ไขปัญหาด้วยความรวดเร็ว
.
แต่แทนที่ท่านจะทำหน้าที่ตัวแทนของประชาชน ในการมาติดตามปัญหาและพูดคุยกับรัฐบาล โดยใช้ข้อมูล ข้อเท็จจริง และเหตุผลอย่างผู้มีอารยะ ท่านกลับเลือกใช้อารมณ์ความรู้สึกและถ้อยคำที่หยาบคายมาชี้นำในการสื่อสารกับสังคม
.
การทำเช่นนี้สะท้อนหรือไม่ว่าท่านพยายามฉวยโอกาสเอาความทุกข์ร้อนของชาวบ้าน มาปั่นกระแสเพื่อเรียกความสนใจและหาซีนทางการเมืองให้พรรคของท่าน มากกว่าจะสนใจปัญหาของประชาชนจริงๆ
.
เพราะถ้าเป็นเช่นนั้น เดียร์ก็เริ่มกังวลว่าการอภิปรายไม่ไว้วางใจที่กำลังจะมาถึง จะเป็นการอภิปรายเพื่อประโยชน์ของประเทศชาติและประชาชน หรือจะเป็นเพียงการมาตีวาทกรรมโดยอาศัยเวทีของสภา เพื่อหวังโจมตีรัฐบาลแบบไร้อารยะและฉวยโอกาสใช้ถ้อยคำที่หยาบคาย โดยไม่สนเหตุผลและข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น แบบที่ท่านกำลังทำในวันนี้
.
เดียร์คิดว่า ไม่ใช่รัฐบาลหรอกค่ะที่ไม่รู้สี่รู้แปด แต่ตัวท่านต่างหากที่ไม่รู้จักกาลเทศะ”
.
#พรรคเพื่อไทย