แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ย้ำมาตรการ Seal Stop Safe ต้องทำอย่างต่อเนื่อง พร้อมผนึกกำลังทุกภาคส่วนป้องกันยาเสพติดในพื้นที่ชายแดน เผยผลการดำเนินงานปี 68 ประสบความสำเร็จในการสกัดกั้นทำยาเสพติดน้อยลง เน้นย้ำต้องปลูกฝังความรู้ในสถาบันการศึกษา

วันนี้ (28 เมษายน 2568) เวลา 15.10 น. ณ หน่วยเรือรักษาความสงบเรียบร้อยตามลำแม่น้ำโขงนครพนม ตำบลอาจสามารถ อำเภอเมืองนครพนม จังหวัดนครพนม นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมติดตามการแก้ไขปัญหายาเสพติดข้ามแดนในพื้นที่ โดยมีนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม นางมนพร เจริญศรี รัฐมนตรีว่าช่วยการกระทรวงคมนาคม นางสาวธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย และผู้บริหารหน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมด้วย

.

นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี   รับฟังผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม กล่าวรายงาน แผนปฏิบัติการสกัดกั้นยาเสพติดและปราบปรามตามมาตรการ “Seal Stop Safe” โดยผนึกกำลัง 51 อำเภอชายแดน และโครงการแก้ไขปัญหายาเสพติด เพื่อทำให้พี่น้องประชาชนมีความสุข ตามต้นแบบธวัชบุรีโมเดล พร้อมรับชมวีดิทัศน์ผลการดำเนินการโครงการแก้ไขปัญหาพื้นที่จังหวัดนครพนม

.

ภายหลังรับฟังผลการสรุปสถานการณ์การแก้ไขปัญหายาเสพติดข้ามแดนในพื้นที่ นายกรัฐมนตรีกล่าวขอบคุณทุกหน่วยงานที่บูรณาการความร่วมมือ ป้องกัน สกัดกั้น และปราบปรามอย่างจริงจัง จนเกิดผลสำเร็จอย่างเป็นรูปธรรม  ซึ่งวัดจากหลาย ๆ เรื่อง โดยเฉพาะเรื่องราคายาเสพติด 

.

“จากเมื่อตอนลงพื้นที่หาเสียงเมื่อสองปีที่แล้ว พบว่าราคายาบ้า มีราคาเม็ดละ 5 – 20  บาท ถือเป็นราคาที่ถูกมาก และจากที่รับฟังรายงานจากเลขาธิการ ปปส.  ระบุว่าราคายาบ้าตอนนี้ อยู่ที่ 40 -100 บาทต่อเม็ด ถือว่าเป็นราคาที่เพิ่มขึ้นจากเดิม และหาซื้อยากขึ้น ผลลัพธ์ดังกล่าวเกิดขึ้นจากความร่วมมือของทุกภาคส่วนในการแก้ไขปัญหานี้” นายกรัฐมนตรี ระบุ

.

นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรี กล่าวต่อว่า จากการได้หารือกับผู้บัญชาการทหารสูงสุด ทราบว่าการขนส่งมีหลายรูปแบบมากยิ่งขึ้น ขอให้ทุกหน่วยที่เกี่ยวข้องเตรียมรับมือในเรื่องนี้ รวมถึงให้ความสำคัญกับการจัดหาอุปกรณ์เสริมที่จำเป็นและมีประสิทธิภาพสำหรับการตรวจเอ็กซเรย์และสแกน เพื่อช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการป้องกันและสกัดกั้น ไม่ให้ยาเสพติดเล็ดลอดเข้าสู่ชุมชน 

.

“สิ่งสำคัญที่ต้องให้ความสำคัญควบคู่กันไป คือด้านการศึกษา เนื่องจากปัจจุบัน ยาเสพติดมีรูปแบบแปลกใหม่ ทำให้เด็กสามารถเข้าถึงได้ง่าย ทำให้เยาวชนเกิดความอยากทดลอง ดังนั้น สถาบันการศึกษาต่าง ๆ จำเป็นต้องปลูกฝังเรื่องความร้ายแรงของยาเสพติด และต้องขยายผลให้เยาวชนทราบอย่างทั่วถึง ทั้งนี้ ขอให้ทุกหน่วยงานให้โอกาสให้แก่ผู้ติดยาเสพติด (ผู้ป่วย) เพื่อให้สามารถกลับคืนเข้าสู่สังคมได้ เพราะทุกคนต้องการโอกาส ไม่ว่าจะพลาดน้อยหรือมาก ส่วนของเจ้าหน้าที่ที่ดูในเรื่องของการบำบัดรักษาและดูแล ขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้ความสำคัญกับการอบรมเจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติงานในด้านนี้ เพื่อเสริมสร้างความเข้าใจในการรับมือกับผู้เสพยาเสพติด ทั้งในด้านการสร้างความอดทน การให้กำลังใจ และการพัฒนาทักษะการดูแลผู้ป่วยอย่างเหมาะสม” นายกรัฐมนตรี ย้ำ

.

#พรรคเพื่อไทย