“อนุสรณ์” ชี้ รัฐบาลจัดงบไม่เอื้อต่อการเสริมศักยภาพการแข่งขันของประเทศ
นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด โฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณี เวิลด์อีโคโนมิกฟอรั่มรายงานขีดความสามารถในการแข่งขันของ 141 ประเทศ โดยไทยอันดับแย่ลง ตกจากอันดับ 38 ไปอยู่ที่อันดับ 40 ว่ารัฐบาลจะโยนบาป หรือโทษปัจจัยภายนอกประเทศเป็นหลักคงไม่ได้ เพราะประเทศในอาเซียน อย่างเช่น เวียดนามสามารถพัฒนาก้าวกระโดดขึ้นมา 10 อันดับ เป็นสิ่งบ่งชี้ว่า ต้องวัดกันที่ฝีมือ อย่าไปโทษปัจจัยภายนอกอย่างเดียว
ซึ่งรายงานยังระบุว่า ไทยต้องเร่งพัฒนาเรื่องลดการทุจริต , ปรับปรุงคุณภาพโครงสร้างพื้นฐาน , พัฒนาทักษะแรงงานในประเทศ และมีนโยบายที่ช่วยลดช่องว่างในการแข่งขันของตลาดภายในประเทศ ถึงจะทำให้ไทยมีอันดับการแข่งขันที่ดีขึ้น แสดงว่า 5 ปีที่ผ่านมาของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ไม่ได้แก้ไขปัญหาเหล่านี้สะท้อนผ่านการจัดอันดับทักษะภาษาอังกฤษของสำนักงาน Education First (EF) ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ในปี 2561 ระบุว่าไทยอยู่ในอันดับที่ 64 จาก 88 ประเทศทั่วโลก ซึ่งลดลง 11 อันดับจากปี 2560 ที่อยู่ในอันดับ 53 ก็ถือเป็นเรื่องที่น่าเศร้าใจ
หากวิเคราะห์ดูการจัดทำงบประมาณของรัฐบาล ไม่ได้มีการจัดงบที่เอื้อต่อการพัฒนาศักยภาพ หรือเพิ่มขีดความสามารถการแข่งขันของประเทศ มาตรการชิมช้อปใช้ สารพัดปัญหา เฟสหนึ่งยังแก้กันไม่จบ เฟสสองกำลังจะตามมา ซึ่งทุกฝ่ายก็สะท้อนตรงกันว่า มาตรการลักษณะนี้ ไม่สามารถกระตุ้นเศรษฐกิจได้จริง แจกเงินยังแจกไม่เป็น จะไปหวังผลในการออกนโยบายอย่างอื่นคงเป็นเรื่องยาก
“พล.อ.ประยุทธ์ ใช้เวลามากเกินไปต่อการกำหนดทิศทางของประเทศ ที่ยังไม่เป็นรูปธรรม ไม่สามารถเสริมศักยภาพการแข่งขันของประเทศได้ 5 ปีที่ผ่านมาเป็นอย่างไร หลังเลือกตั้งรัฐบาลประยุทธ์ก็ยังคงทำแบบเดิม ซึ่งเป็นการยากที่จะได้รับผลลัพธ์แบบใหม่” นายอนุสรณ์ กล่าว