“เพื่อไทย” เผยชื่อผู้สมัคร “ธนิก-อดิศร” ลงชิง ส.ส. ขอนแก่น จ่อเคาะ 21 พ.ย.นี้ มั่นใจรักษาเก้าอี้ได้
(18 พ.ย. 62) ที่พรรคเพื่อไทย นายชูศักดิ์ ศิรินิล รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย และนายภูมิธรรม เวชยชัย ที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ร่วมกันแถลงภายหลังการประชุมคณะกรรมการสรรหาผู้สมัครเลือกตั้งซ่อม ส.ส. ขอนแก่น เขต 7 แทนนายนวัธ เตาะเจริญสุข อดีต ส.ส.
นายภูมิธรรม กล่าวว่า เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาพรรคได้ออกคำประกาศให้ผู้ที่สนใจลงสมัคร ปรากฏว่ามีผู้เสนอตัวทั้งหมด 4 คน คือนายธนิก มาสีพิทักษ์ อดีต ส.ส. บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย นายอดิศร เพียงเกษ โฆษกผู้นำฝ่ายค้านในสภาฯ นายประสงค์ ศรีวัฒน์ นายกเทศมนตรีตำบลหนองเรือ จังหวัดขอนแก่น และนายสุรพจน์ เตาะเจริญสุข สมาชิกองค์การบริหารส่วนจังหวัดขอนแก่น โดยที่ประชุมได้พิจารณาหลายแง่มุม และตัดสินใจเลือกนายธนิกและนายอดิศร โดยจะเสนอชื่อให้เป็นไปตามข้อบังคับ ประกาศขึ้นเว็บไซต์และให้คณะกรรมการคัดสรรประจำจังหวัด พิจารณาคัดเลือกอีกครั้ง จากนั้นจะนำข้อสรุปมาหารือกรรมการบริหารพรรค เพื่อให้ได้ข้อยุติในวันที่ 21 พ.ย.นี้ อย่างไรก็ตาม หวังว่าตัวแทนผู้สมัครของเราจะลงไปช่วงชิงและได้รับชัยชนะ เพราะจังหวัดขอนแก่นเป็นฐานเดิมของเรา และเราทำงานประสานในพื้นที่มาอย่างยาวนาน ที่สำคัญทั้งคู่เคยเป็นผู้แทนและเป็น ส.ส. ขอนแก่นมาแล้ว
นายภูมิธรรม กล่าวอีกว่า ที่ประชุมเสนอให้ทาบทามนายพงศกร อรรณนพพร อดีต รมช.ศึกษาธิการ เป็น ผอ.เลือกตั้ง จังหวัดขอนแก่น ซึ่ง ส.ส. ทั้งหมดจะช่วยกันอย่างเต็มที่เพื่อให้ได้ ส.ส. ของพรรคเข้ามาต่อสู้ในสภาฯ อีกครั้ง ทั้งนี้ ขอเรียกร้องฝ่ายรัฐวางตัวให้เที่ยงธรรม เป็นไปตามข้อกฎหมาย อย่าใช้อำนาจและกลไกของรัฐให้เป็นคุณเป็นโทษต่อผู้สมัคร ส่วนพรรคเพื่อไทยมั่นใจว่าจะสามารถได้กำลังใจจากพี่น้องประชาชน และจะได้เข้าไปทำหน้าที่ ส.ส. ในสภาฯ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ทั้งนี้ นายภูมิธรรม ยังได้กล่าวถึงประเด็นการแก้รัฐธรรมนูญ ว่า ขณะนี้ฝ่ายค้านทำงานร่วมกันทั้งในสภาฯ และนอกสภาฯ โดยในสภาฯ เราได้ผลักดันข้อเสนอจนเกิดเป็นญัตติศึกษาแก้รัฐธรรมนูญ แต่ดูแล้วไม่ค่อยราบรื่น เพราะมีการเลื่อนญัตติบ่อย อย่างไรก็ตาม จะมีการเชิญหัวหน้าพรรคและเลขาธิการ 7 พรรคร่วมฝ่ายค้าน หารืออีกครั้ง เพื่อกำหนดยุทธศาสตร์และขั้นตอนในการทำงาน แม้การดำเนินการแก้รัฐธรรมนูญจะแก้ยาก เป็นนามธรรม ไม่ตอบโจทย์การแก้ปัญหาประชาชน และถูกบิดเบือนจากรัฐบาลบ่อยครั้งว่าเราไม่สนใจปัญหาพี่น้องประชาชน แต่เราพบว่ารัฐธรรมนูญคือปัญหาต้นตอสำคัญที่ได้ผู้บริหารไร้ประสิทธิภาพ การจัดการที่ล้มเหลวนำมาซึ่งปัญหามากมาย ทั้งปัญหาเศรษฐกิจ การว่างงาน ทั้งนี้ เราจะประสานการทำงานเป็นเนื้อเดียวกัน