(18 ก.พ. 63) ที่พรรคเพื่อไทย มีการประชุมคณะกรรมการกิจการพิเศษ ร่วมกับคณะทำงานเพื่อเตรียมความพร้อมในการอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐมนตรีเป็นรายบุคคล ที่จะมีขึ้นในวันที่ 24-28 ก.พ.นี้

โดย ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง ประธานคณะกรรมการกิจการพิเศษ พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า การยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และคณะรัฐมนตรีเป็นรายบุคคลครั้งนี้ ไม่คาดคิดว่าพรรคพลังประชารัฐ และพรรคร่วมรัฐบาลยังอยากจะเปิดเกมนอกสภากันอีก แต่ถึงอย่างไรพวกเราก็พร้อมเสมอ แต่อย่ามาอ้างเพื่อความสงบ หรืออ้างการแก้กฎหมาย แก้รัฐธรรมนูญ เหมือนตอนรัฐประหาร เมื่อวันที่ 22 พฤษภาคม 2557 ซึ่งตอนนั้นข้ออ้างในการยึดอำนาจ ก็คือ ขอแก้ไขรัฐธรรมนูญเพื่อให้เป็นประชาธิปไตย แต่เรากลับได้รัฐธรรมนูญที่ไม่เป็นประชาธิปไตย คนเขียนต้องการใส่กุญแจมือพรรคฝ่ายค้าน โดยชกมวยกันคนละกติกา ฝ่ายค้านเป็นมวยไทย ส่วนรัฐบาลคือมวยสากล การวางแผนแบบนี้มันมีมานานอย่างต่อเนื่องและแยบยล ซึ่งในการอภิปรายครั้งนี้จะไม่ให้เราพูดถึงเรื่อง 5-6 ปีที่ผ่านมาแล้ว พูดได้เพียงแค่ 6 เดือน แต่บางเรื่องที่รัฐบาลได้กระทำลงไป มันคือความผิดสำเร็จไปแล้ว ตั้งแต่เป็นรัฐบาล คสช. ซึ่งการเล่นการเมืองไม่ต้องคอยมาสอนกัน เพราะรู้เท่าทันกันทั้งนั้น จะมาคอยประท้วงทำไม ในเมื่อ พล.อ.ประยุทธ์ เจ้าตัวก็บอกเองว่าพร้อมแล้วสำหรับการอภิปรายครั้งนี้

ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวต่อไปว่า เราชนะเลือกตั้งมาทุกครั้ง และครั้งนี้เราก็ชนะ แต่เพราะพวกคุณเขียนรัฐธรรมนูญฉบับนี้ขึ้นมา เลยทำให้การเมืองมันแกว่งแบบที่เห็นที่เป็นกันอยู่ แต่อย่างไรก็ตาม ตนเชื่อว่าข้อมูลยุทธศาสตร์ที่มีอยู่จะทำให้รัฐบาลอายจนเดินถนนไม่ได้ ถึงจะเดินก็ต้องใส่หน้ากากไว้ ถึงแม้โรคมันจะหมดไปก็ตาม

“แม้พวกคุณจะร่วมมือกันประท้วงนอกสภา แต่ในสภาคุณต้องให้โอกาสฝ่ายค้านได้อภิปรายอย่างเสรี”

และสิ่งที่คณะ คสช. ได้สร้างมรดกบาปเอาไว้ ถ้ามีโอกาสเราจะต้องแก้ ก็คือ 1. แก้กฎหมายย้อนหลังในทางเป็นโทษ ซึ่งขัดต่อหลักสากล 2. แก้กฎหมายโดยไม่มีอายุความ และ 3. การให้มีการพิจารณาคดีลับหลังได้

“วันนี้ เราไม่ได้พกพาความแค้น ความอึดอัด หรือความไม่พอใจอะไร เราทีมคณะกรรมการกิจการพิเศษพรรคเพื่อไทยทำงานตรงนี้ และขอตั้งชื่อยุทธศาสตร์ในการอภิปรายไม่ไว้วางใจในครั้งนี้ ว่า “ยุทธการอรุณรุ่ง”  ซึ่งต่อไปพวกท่านก็จะรู้ว่าทำไมเราถึงได้ตั้งชื่อนี้ ทุกอย่างจะมีเหตุผลอธิบายในวันอภิปรายฯ รับรองว่าจะสร้างความสั่นสะเทือนให้กับรัฐบาลอย่างแน่นอน” ร.ต.อ.เฉลิม กล่าว