การประกาศผลรางวัลออสการ์ประจำปี 2016 ได้จบลงไปแล้ว ภาพยนตร์ยอดเยี่ยมตกเป็นของหนังเรื่อง Spotlight ภาพยนตร์ที่สร้างจากเรื่องจริงของสำนักข่าวที่หาญกล้าท้าทายอำนาจของศาสนจักรเพื่อเปิดโปงเรื่องราวสุดอื้อฉาวของบรรดานักบวช  ดารานำหญิงยอดเยี่ยม ตกเป็นของ Brie Larson ในบทคุณแม่ลูกหนึ่ง จากภาพยนตร์เรื่อง Room ที่สะเทือนใจจนอาจทำให้ใครหลายคนกลั้นน้ำตาไม่อยู่

ส่วนดารานำชายยอดเยี่ยมตกเป็นของพระเอกตลอดกาล Leonardo Di Caprio ตามคาดหมาย หลังจากรอคอยมานานแสนนาน จากภาพยนตร์เรื่อง The Revenant หรือชื่อภาษาไทยว่า “ต้องรอด” เรื่องราวอิงประวัติศาสตร์เกี่ยวกับการเอาชีวิตรอดเพียงลำพังท่ามกลางอุณหภูมิอันหนาวเหน็บในหุบเขาทางตอนเหนือของสหรัฐอเมริกา ลีโอได้ถ่ายทอดเรื่องราวของตัวละคร Hugh Glass ได้อย่างยอดเยี่ยม เข้าถึงทุกอารมณ์ ทำให้เขาได้รับรางวัลนี้ไปอย่างสมศักดิ์ศรี

ในคำกล่าวขอบคุณของเขาหลังจากรับรางวัลบนเวทีออสการ์ นอกจากเขาจะขอบคุณผู้กำกับ เพื่อนและพ่อแม่ของเขาแล้ว เขายังได้กล่าวถึงประเด็นปัญหาสิ่งแวดล้อมที่เกิดขึ้นกับโลกได้อย่างน่าประทับใจด้วยว่า

“สุดท้ายแล้ว ผมอยากจะบอกว่า หนังเรื่อง The Revenant นั้นมันเกี่ยวกับความสัมพันธ์ของมนุษย์และธรรมชาติ ซึ่งในปี 2015 เราต่างก็รับรู้ว่าโลกเรามีอุณหภูมิที่ร้อนที่สุดในประวัติศาสตร์ การถ่ายทำของเราจำเป็นต้องย้ายไปที่ส่วนใต้ของโลกเพื่อจะหาหิมะ สภาวะการเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศนั้นมีจริง และมันเกิดขึ้นอยู่ตอนนี้ มันเป็นภัยเร่งด่วนที่สิ่งมีชีวิตทุกสายพันธุ์ต้องเผชิญ และพวกเราต้องร่วมมือกันและเลิกผัดวันประกันพรุ่งเสียที เราต้องสนับสนุนผู้นำทั่วโลกที่ไม่ได้เป็นปากเป็นเสียงแทนพวกที่สร้างมลพิษ แต่เป็นปากเป็นเสียงให้ประชาชนหลายพันล้านคนที่ได้รับผลกระทบ เป็นปากเป็นเสียงให้ลูกหลานของเราที่เสียงของพวกเขาจมหายไปกับความโลภของการเมือง  ผมอยากขอบคุณรางวัลสุดวิเศษในค่ำคืนนี้ และอยากให้พวกเราเอาจริงเอาจังกับโลกของเรา เหมือนที่ผมเอาจริงเอาจังกับค่ำคืนนี้ ขอบคุณมากครับ”

ปัญหาสิ่งแวดล้อมและการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศเป็นปัญหาสำคัญที่เกิดขึ้นกับโลกมาอย่างต่อเนื่อง การประชุมของสหประชาชาติ COP21 ที่เพิ่งผ่านพ้นไปก็เป็นสัญญาณอันดีว่านานาชาติต่างตระหนักถึงปัญหานี้ร่วมกันและประสงค์ที่จะร่วมมือกันแก้ไขปัญหานี้
ย้อนกลับมาดูในประเทศไทย แม้ว่าไทยจะลงนามในสนธิสัญญาหลายฉบับที่เกี่ยวกับสิ่งแวดล้อมและการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ เช่นการลงนามในข้อตกลงปารีสเพื่อลดสภาวะเรือนกระจก แต่รัฐบาลดูเหมือนยังไม่ค่อยใส่ใจในปัญหาสิ่งแวดล้อมเท่าที่ควร เช่น การใช้ ม.44 ในการปลดล็อคนโยบายผังเมือง อาจสร้างปัญหาสิ่งแวดล้อมและชุมชนตามมา เพราะมันจะเอื้อให้การสร้างโรงงานอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ในชุมชนทำได้ง่ายขึ้น นอกจากปัญหาสิ่งแวดล้อมที่ตามมา การขาดการทำประชาพิจารณ์จากผู้ได้รับผลกระทบโดยตรงอย่างคนในพื้นที่ ก็จะก่อให้เกิดปัญหาชุมชน สาธารณสุข ฯลฯ

รัฐบาลที่ดีจะต้องรับฟังเสียงของประชาชนและทำตามข้อตกลงร่วมกันของสหประชาชาติ และหากตระหนักถึงปัญหาสิ่งแวดล้อม ก็ควรต้องเร่งหาทางแก้ไขอย่างเร่งด่วน ก่อนที่ทุกอย่างจะสายเกินไป