“หนูขอข้าวเพิ่มอีกได้ไหม ที่บ้านยังมีน้องรออยู่อีกหลายคน” เสียงสะท้อน จาก “เชียงใหม่” ในวันที่วิกฤติถาโถม : ส.ส.ทัศนีย์ บูรณุปกรณ์
“เชียงใหม่เหมือน เคราะห์ซ้ำกรรมซัด ทั้งโควิด ภัยแล้ง ฝุ่นพิษ ไฟป่า ไหนยังต้องมาเจอกับวิกฤติเศรษฐกิจตอนนี้อีก พูดตรงๆเลยก็ได้ว่า ตั้งแต่เกิดมายังไม่เคยเจอวิกฤติครั้งไหนหนักหนาสาหัสสากรรจ์เท่าครั้งนี้มาก่อน” ทัศนีย์ บูรณุปกรณ์ ส.ส.เชียงใหม่ เขตเลือกตั้งที่ 1 พรรคเพื่อไทย บอกเล่าสถานการณ์ของจังหวัดเชียงใหม่ ที่ถูกรุมเร้าด้วยสารพัดปัญหา
“เชียงใหม่” เมืองท่องเที่ยวระดับต้นของประเทศ เคยเป็นเป้าหมายปลายทางของทั้งคนไทยและชาวต่างชาติในภาวะปกติ แต่สถานการณ์ในวันนี้หลายๆ อย่างเปลี่ยนแปลงไป
“พี่คะๆ หนูขอข้าวเพิ่มอีกได้ไหมคะ ที่บ้านหนูยังมีน้องรออยู่อีกหลายคน มีเด็กผู้หญิงคนหนึ่งอายุประมาณ 5-6 ขวบ ที่มารอต่อแถวเข้าคิวรับข้าวกล่องเขาพูดกับเรา เราเห็นแล้วก็สงสาร นี่ขนาดเป็นพื้นที่ในชุมชนเมือง อยู่ในเขตเทศบาลเมืองนะคะ ไม่รู้เลยว่าชุมชนรอบนอกจะลำบากกันขนาดไหน” ส.ส.ทัศนีย์ บอกเล่าความยากลำบากของผู้คนในเมืองเชียงใหม่ ที่ปรากฏต่อสายตาตัวเอง
ส.ส.ทัศนีย์ บอกว่า เสียงของเด็กหญิงตัวน้อยที่ปรากฏต่อหน้าในคราวนั้น นอกจากจะสะท้อนภาพวิกฤติในพื้นที่เชียงใหม่ ที่หนักหนาสาหัสแบบที่ไม่เคยเจอมาก่อน ยังกระทบความรู้สึกของผู้พบเห็นและได้ยินอย่างมาก เพราะตลอดระยะเวลาที่เป็นผู้แทนฯมา ไม่คิดว่าวันหนึ่งจะต้องเผชิญกับสถานการณ์เช่นนี้
“ชาวบ้านมาถามกับเราเยอะมากว่า ทำไมเขาถึงไม่ได้รับเงินเยียวยา 5,000 บาทจากรัฐบาล เพราะจากมาตรการล็อกดาวน์ สั่งปิดนั่นปิดนี่ ทำให้เขาต้องตกงาน ภาครัฐเอาระบบอะไรมาตรวจสอบคัดกรองว่าคนไหนเข้าเกณฑ์หรือไม่เข้าเกณฑ์ที่จะได้รับการเยียวยา”
“ตอนนี้โควิดไม่กลัวแล้ว กลัวไม่มีจะกินมากกว่า” ส.ส.ทัศนีย์ ยกอีกหนึ่งคำพูดของชาวบ้านที่ระบายออกมา ระหว่างการลงพื้นที่ของ ส.ส. ซึ่งเป็นคำพูดที่เรียกได้ว่าแทบจะตรงกับความรู้สึกของหลายคนในสังคมขณะนี้
ส.ส.ทัศนีย์ เล่าว่า วันนี้ที่เชียงใหม่มีคนตกงานเยอะมาก หลายคนบอกว่าว่างงานกันหมดแล้วกำลังลำบาก บางคนบอกว่าไม่มีกินแล้ว ซึ่งสิ่งที่เราจะทำได้ดีที่สุดในเวลานี้ คือการช่วยเหลือในเรื่องชีวิตความเป็นอยู่ในแต่ละวัน ให้เขาได้มีอาหารกิน ซึ่งถือว่าโชคยังดีที่มีหลายคน หลายกลุ่มเข้ามาช่วยกัน ทั้งเรื่องอาหาร หน้ากาก และแอลกอฮอล์
“เราเห็นปัญหาจากมาตรการต่างๆ ของรัฐแล้วว่ากระทบกับชีวิตและความเป็นอยู่ของชาวบ้าน จึงได้เข้าไปร่วมกับหลายกลุ่มหลายองค์กรเพื่อจัดหาและทำอาหารแจกจ่ายให้ชาวบ้าน ที่ลำบากกันอยู่ แต่ตรงนี้ก็ยังโชคดีมากที่ชาวเชียงใหม่อีกหลายๆ กลุ่มที่ยังพอมีกำลัง ระดมกันมาช่วยเหลือคนที่ต้องลำบากกว่า ตอนนี้ทุกคนลำบาก บางคนขนาดข้าวยังไม่มีจะกินกันเลย ไม่มีใครอยากประสบกับเหตุการณ์แบบนี้หรอก เราก็เหมือนคนอื่นๆ ไม่อยากเห็นเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นอีก ในขณะที่เรายังสามารถทำอะไรได้ ก็น่าจะช่วยดูแลพวกเขาให้ดีที่สุด ใครจะอยากไปเอ่ยปากขอข้าวจากคนอื่น ถ้าตัวเองมี นี่แสดงว่าเขาต้องไม่มีจริงๆ ตอนนี้ก็เลยคิดว่าจะหาอาหารแห้งที่แปรรูปเก็บได้นานเอามาให้เขา เพื่อจะได้เอากลับไปเผื่อคนที่บ้านด้วย อย่างน้อยก็เพื่อให้เขาได้ผ่านช่วงเวลาที่ยากลำบากนี้ไปได้
อาหารสำเร็จรูปที่หลายกลุ่มได้ช่วยกันทำ ก็ถือว่าดีมาก ช่วยได้เยอะ ในส่วนของเราก็มาคิดไปอีกขั้นหนึ่งว่าจะทำอย่างไรให้การช่วยเหลือแบบนี้เป็นประโยชน์ในวงกว้างมากที่สุด อย่างนักศึกษาที่ยังต้องอยู่ในหอพัก ในมหาวิทยาลัย เพื่อรอสอบออนไลน์ ก็อยากจะช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายของเขาและผู้ปกครอง ซึ่งเป็นค่าข้าว ค่าอาหาร เพราะพวกเขามีภาระค่าใช้จ่ายที่เพิ่มมากขึ้นในส่วนของค่าโทรศัพท์และอินเทอร์เน็ต โดยเราหวังที่จะให้เขาได้เก็บเงินที่มีเอาไว้ใช้จ่ายในส่วนที่จำเป็นจริงๆ อะไรที่พอช่วยเหลือกันได้ ก็ช่วยๆกัน เพราะวันนี้เดือดร้อนทุกหย่อมหญ้า และทุกคนได้รับผลกระทบเหมือนกันหมด” ส.ส.เชียงใหม่ เขตเลือกตั้งที่ 1 พรรคเพื่อไทย บอกถึงความตั้งใจและเป้าหมายในสถานการณ์ที่ยากลำบาก
จากการได้สัมผัสความเดือดร้อนของประชาชนคนในพื้นที่ ส.ส.ทัศนีย์ จึงเรียกร้องไปยังรัฐบาล ให้พิจารณามาตรการต่างๆ ในการช่วยเหลือดูแลประชาชนให้ทั่วถึงทุกกลุ่ม มากกว่ามาตรการในปัจจุบันที่รัฐบาลใช้อยู่ เพราะถือว่าวันนี้ทุกคนเดือดร้อนทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็น เกษตรกร อาชีพอิสระ เจ้าของกิจการ ลูกจ้าง
“เงินทุกบาททุกสตางค์ของพี่น้องประชาชนมีคุณค่าจริงๆ ตอนเสียภาษีพวกเราก็เสียกันหมดทุกคน เพราะฉะนั้นเมื่อถึงเวลาเยียวยา ทุกคนก็ควรจะได้รับการเยียวยาเท่าเทียมกันหมด วันนี้หลายคนเริ่มบอกว่าไม่รู้จะอยู่ต่อไปได้อีกกี่วัน ถ้ายังไม่ได้รับการช่วยเหลือ ไม่รู้ว่าพรุ่งนี้ชีวิตจะเป็นอย่างไร เพราะวันนี้เดือดร้อนกันหมด เดือดร้อนกันทุกหย่อมหญ้า อยากฝากรัฐบาลถึงการออกมาตรการต่างๆ ถ้ายังเป็นเช่นนี้อยู่ กลัวว่าในอนาคตจะมีตายเพราะอด มากกว่าตายเพราะโควิด” ส.ส.ทัศนีย์ ย้ำเสียงสะท้อนของชาวเชียงใหม่ที่ได้ยินได้ฟังอย่างต่อเนื่องในช่วงนี้ พร้อมกับทิ้งท้ายถึงชาวเชียงใหม่และคนไทยทุกคนว่า “วันนี้ไม่มีอะไรจะพูดมากไปกว่า คำว่า “อดทน” เราต้องอดทน…ขอให้พวกเราพี่น้องคนไทยทุกคนอดทน หวังว่าทุกอย่างจะดีขึ้นในวันข้างหน้า แล้วเราจะผ่านมันไปด้วยกัน” ส.ส.เชียงใหม่ พรรคเพื่อไทย ฝากกำลังใจในสถานการณ์ที่ทุกคนต้องยากลำบาก