หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ชี้ 88 ปีประชาธิปไตยยังล้มลุกคลุกคลาน เรียกร้องทุกฝ่ายร่วมคิดร่วมสร้าง รัฐธรรมนูญของประชาชน
24 มิถุนายน 2563 นายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ หัวหน้าพรรคเพื่อไทย กล่าวเปิดการเสวนาวิชาการ หัวข้อ “ทิศทางรัฐธรรมนูญไทย” ว่าวันนี้เป็นวันสำคัญอย่างยิ่ง เพราะเป็นวันที่ครบ 88 ปี ที่เราเริ่มต้นประชาธิปไตย ตั้งแต่ปี 2475 ที่ผ่านมาเราล้มลุกคลุกคลานมาตลอด เกิดการรัฐประหารและร่างรัฐธรรมนูญมานับสิบฉบับ ซึ่งต้องขออนุญาตเรียกรัฐธรรมนูญฉบับนี้ว่า ฉบับเสื้อคลุมประชาธิปไตย แต่สอดไส้เผด็จการ และในข้อเท็จจริงมองได้ว่าเป็นรัฐธรรมนูญที่ย้อนแย้ง โดยพยายามสร้างภาพหลอนให้ประชาชนรู้สึกว่าเป็นเจ้าของ แต่จริงๆ แล้วไม่ใช่ เพราะประชาชนไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องเลย โดยเฉพาะในการยกร่างที่ใช้อรหันต์ 80 กว่าคน จนมีความผิดเพี้ยนอยู่มาก ซึ่งรัฐธรรมนูญที่เป็นของประชาชนควรที่จะยกร่างให้ประชาชนสามารถอยู่ร่วมกันได้ด้วยความเป็นธรรม ผาสุก คนส่วนใหญ่ที่มีความเห็นและความต้องการจะได้รับการตอบสนอง แต่ผู้ร่างรัฐธรรมนูญฉบับนี้ไม่ได้คิดแบบนั้นทำให้อำนาจตกในมือของเผด็จการ
รัฐธรรมนูญฉบับนี้ทำลายระบบพรรคการเมือง ด้วยการกำหนดพรรคการเมืองใหญ่อีกพรรคหนึ่งขึ้นมา คือพรรค ส.ว. 250 เสียงที่มาจากการแต่งตั้ง ที่ทำให้การกำหนดบุคคลที่จะมาเป็นนายกรัฐมนตรีนั้นเป็นบุคลที่ประชาชนไม่ได้เลือก นอกจากนี้รัฐธรรมนูญยังซับซ้อนด้วยการใช้ยุทธศาสตร์ชาติเป็นตัวกำหนด ซึ่งถ้าไม่ปฏิบัติตามก็จะมีโทษ ทั้งๆ ที่ควรจะสามารถปรับเปลี่ยนได้ตามการเปลี่ยนแปลงของโลก
ในภาพรวมความเลวร้ายของรัฐธรรมนูญ ทำให้มองได้ว่าการเดินหน้าต่อไปในการแก้ไขรัฐธรรมนูญเป็นสิ่งที่จำเป็นอย่างยิ่ง ซึ่งในการที่เราจะทำให้รัฐธรรมนูญเป็นของประชาชน จะต้องมีสมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญ (ส.ส.ร.) ที่มาจากการเลือกตั้งโดยประชาชน เหมือนที่เคยเกิดขึ้นมาแล้วในปี 2540 เพื่อจะได้รัฐธรรมนูญของประชาชนโดยตรง ดังนั้นในฐานะคนไทยจะต้องหาแนวทางการสร้างรัฐธรรมนูญให้เป็นประโยชน์กับประชาชนอย่างสูงที่สุด ไม่ใช่เป็นรัฐธรรมนูญที่มาจากกลุ่มใดกลุ่มหนึ่งเท่านั้น
“ส่วนตัวมองว่ารัฐธรรมนูญฉบับนี้เป็นรัฐธรรมนูญที่แก้ไขยาก เพราะมีข้อกำหนดและเงื่อนไขอยู่เต็มไปหมด ดังนั้นส่วนที่สำคัญที่สุดคือประชาชนจะต้องร่วมกันพิจารณาว่าจะไปทางไหนและแก้ไขอย่างไร ไม่เช่นนั้นเราก็จะอยู่ในมือเผด็จการไปตลอด และเราต้องผนึกกำลังกันเพื่อให้ความคิดความเห็นกับฝ่ายต่างๆ ให้กว้างขวางเพื่อให้ได้รัฐธรรมนูญของประชาชนโดยตรง”