พรรคเพื่อไทย เปิดตัวผู้สมัครนายก อบจ. 25 จังหวัด ชูนโยบาย “สร้างโอกาส ใกล้บ้าน” ยกระดับคุณภาพชีวิตประชาชน 6 ด้าน
พรรคเพื่อไทย เปิดตัวนโยบายและผู้สมัครนายก อบจ. โดยชูนโยบาย “ใกล้บ้าน” ด้วยการนำประสบการณ์ระดับชาติ สู่ความเจริญใกล้บ้านประชาชน ผ่านการสร้างงานสร้างรายได้ สร้างโอกาสใน 6 ด้าน ได้แก่ ด้านการเดินทาง การขนส่ง , ด้านสุขภาพ , ด้านการศึกษา , ด้านการเกษตรอาหารปลอดภัย และเอสเอ็มอี โอทอป โดยนโยบายทั้ง 6 ด้านมีรากฐานมาจากแนวคิด “คิดใหม่ ทำใหม่ เพื่อจังหวัดของเรา” พร้อมประชุมวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ผ่านโปรแกรม Zoom กับผู้สมัครนายก อบจ. 4 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดเชียงราย , หนองคาย , เชียงใหม่ และอุบลราชธานีด้วย
นางสาววิสาระดี เตชะธีราวัฒน์ ผู้สมัครนายก อบจ.เชียงราย หมายเลข 3 เปิดตัวนโยบายเจียงฮายยิ้มได้ ชูนโยบายยิ้มยกกำลัง 3 เชียงฮายเลิกจน ทุกคนมีงานทำ , เจียงฮายเชื่อมสู่โลก , เจียงฮายยิ้มได้ พร้อมระบุว่า การเมืองท้องถิ่นจะไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป โดยจะเชื่อมจังหวัดสู่ระดับประเทศและระดับโลก ปรับโครงสร้าง อบจ. โดยนำโครงสร้างคณะกรรมาธิการในสภามาใช้ในองค์การบริหารส่วนจังหวัด
นายธนพล ไลละวิทย์มงคล ผู้สมัครนายก อบจ.หนองคาย หมายเลข 2 กล่าวว่า โอกาสของจังหวัดหนองคายคือรถไฟความเร็วสูงที่จะเปิดให้บริการในปี 2564 จะทำให้หนองคายเป็นเมืองหน้าด่านและเมืองท่องเที่ยว จึงจะพัฒนาจังหวัดหนองคายให้เป็นศูนย์กลางการขนส่งสินค้า สร้างโครงข่ายถนนและวางผังเมืองให้เหมาะสม ขณะเดียวกันจะพัฒนาการเกษตร โดยเริ่มที่การพัฒนาการจัดการน้ำให้ทั่วถึง รวมถึงพัฒนาสินค้าให้เหมาะสมกับตลาดลาวและจีนด้วย
นายพิชัย เลิศพงศ์อดิศร ผู้สมัครนายก อบจ.เชียงใหม่ หมายเลข 1 กล่าวว่า จะเพิ่มรายได้ ลดรายจ่าย และขยายโอกาสให้กับเชียงใหม่ โดยจะพัฒนาแหล่งท่องเที่ยวเพื่อสร้างรายได้ พัฒนาแหล่งน้ำ พัฒนาระบบสาธารณสุข การเดินทางสาธารณะ และการขนส่งในจังหวัด ลดขั้นตอนการขออนุญาตต่างๆ พัฒนาแหล่งท่องเที่ยวด้วยนโยบาย 1 อำเภอ 1 แลนด์มาร์ค พร้อมยืนยันจะบริหารงบประมาณท้องถิ่นกว่า 2,000 ล้านบาทอย่างเหมาะสม เพื่อประชาชนจังหวัดเชียงใหม่
นายกานต์ กัลป์ตินันท์ ผู้สมัครนายก อบจ.อุบลราชธานี หมายเลข 5 ชูแนวคิดด้านความเสมอภาค ภูมิคุ้มกันและเท่าทันโลก มี 4 แนวทาง เข้าถึงการศึกษาด้วยเทคโนโลยี ผ่านแนวคิด Education Mobile โดยจะติดตั้ง Wi-Fi ทุกตำบลและอำเภอ ลดภาษีท้องถิ่นต่างๆ เพื่อลดอุปสรรคต่อการลงทุนในท้องถิ่นด้วย
นายชูศักดิ์ ศิรินิล รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า นับตั้งแต่ปี 2557 ที่มีการยึดอำนาจและได้ออกคำสั่ง คสช. ไม่ให้มีการเลือกตั้งผู้บริหารท้องถิ่นและสภาท้องถิ่นจนถึงปัจจุบัน รวมแล้วเกือบ 5 ปี ปีนี้จึงถือเป็นครั้งแรกที่จะมีการเลือกตั้งท้องถิ่น ซึ่งพรรคเพื่อไทยให้ความสำคัญกับการเลือกตั้ง อบจ. เพราะเป็นองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นที่มีความสำคัญสูงสุด หากได้ผู้บริหารที่ดี ก็จะเป็นส่วนสำคัญของระบอบประชาธิปไตย
นายนพดล ปัทมะ คณะทำงานด้านนโยบายและวิชาการ พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า พรรคเพื่อไทยจะนำความรู้และประสบการณ์ในยุคไทยรักไทย ซึ่งเป็นความรู้ระดับชาติมาสนับสนุนการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจระดับท้องถิ่น ทั้งการคิดใหม่ทำใหม่ การเพิ่มรายได้ ขยายโอกาส ทั้งด้านการขนส่ง , สุขภาพ , การศึกษา , การเกษตรอาหารปลอดภัย , สร้างความเข้มแข็งให้กับเอสเอ็มอี และการท่องเที่ยว รวมถึงการแก้ปัญหาเศรษฐกิจ ยกระดับคุณภาพชีวิต และแก้ปัญหาความเหลื่อมล้ำ
“พรรคเพื่อไทยจะเปลี่ยนคำสัญญาที่ว่างเปล่า มาสู่คำสัญญาที่เน้นผลงานเป็นหลัก สิ้นสุดการเมืองของการสร้างวาทกรรม มาสู่การลงมือทำจริง ท้องถิ่นจะเป็นรากฐานของการสร้างโอกาส สร้างรายได้ เป็นรากฐานของประเทศไทย ไม่ใช่ฐานของการเมืองอีกต่อไป เราเชื่อว่าหากรากแข็งแรง บ้านจะแข็งแรง” นายนพดล กล่าว