“โฆษกเพื่อไทย” แนะรัฐถอดบทเรียนม็อบอย่างจริงใจ อย่าใช้ความรุนแรง ชี้ นายกฯคือภาระ ต้องออกไป ประเทศถึงเดินหน้า

ผศ.ดร.อรุณี กาสยานนท์ โฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงการชุมนุมที่ธนาคารไทยพาณิชย์ในวันนี้ (25 พ.ย. 63) ว่า การเตรียมการป้องกันด้วยเครื่องมือต่างๆ ของรัฐบาล ถือเป็นการเดินหน้าเพื่อสกัดกั้นการแสดงออกอย่างสันติ โดยไม่สนใจข้อเรียกร้องของผู้ชุมนุม ทั้งนี้ รัฐบาลต้องเรียนรู้เพื่อถอดบทเรียนจากการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจและผู้สั่งการในการสลายการชุมนุมที่หน้ารัฐสภา เมื่อวันที่ 17 พ.ย.ที่ผ่านมาจนทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บจำนวนมาก

โฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวอีกด้วยว่า แม้วันนี้รัฐบาลพยายามเสนอทางออกประเทศแต่เต็มไปด้วยความจอมปลอมและยื้อเวลา ด้วยการตั้งคณะกรรมการสมานฉันท์ 21 คน 7 ฝ่าย ในขณะเดียวกันยังมีความพยายามสกัดกั้นการชุมนุมต่อเนื่อง ยืนยันได้จากเอกสารลับของสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) ถึงกระทรวงมหาดไทย ที่ให้ดูแลการระดมมวลชนร่วมชุมนุมในช่วงวันที่ 23-27 พ.ย.นี้ รวมถึงการจับกุมนายปิยรัฐ จงเทพ หัวหน้าการ์ดคณะราษฎร ซึ่งมีบทบาทสำคัญในการเจรจาเพื่อไม่ให้เกิดการปะทะกัน แต่รัฐบาลยังใช้กฎหมายทุกมาตราอย่างเข้มงวดจับกุมผู้ชุมนุม ยิ่งทำให้เกิดความหวาดระแวงต่อกันมากขึ้น สิ่งที่สำคัญที่ผู้ชุมนุมเรียกร้อง คือ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม ต้องลาออกเท่านั้น

ทั้งนี้ พรรคเพื่อไทยเสนอทางออกกรณีการตั้งคณะกรรมการสมานฉันท์ ได้แก่ 1. รัฐบาลต้องมีความจริงใจในการรับฟังข้อเรียกร้องที่แท้จริงของประชาชน 2. รัฐบาลต้องหาผู้กระทำผิดมาลงโทษ กรณีที่เจ้าหน้าที่รัฐปล่อยปละละเลยให้เกิดม็อบชนม็อบ สลายการชุมนุมโดยใช้สารเคมีรุนแรงหน้ารัฐสภาเมื่อวันที่ 17 พ.ย.นี้ผ่านมา 3. พล.อ.ประยุทธ์ คือภาระ และเป็นสลักระเบิด ดึงให้สถานการณ์มาถึงจุดนี้ ต้องลาออกทันที

โฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า หากรัฐบาลดำเนินการตามข้อเสนอนี้ จะทำให้บรรยากาศการเมืองเดินหน้าได้ พรรคเพื่อไทยยังยืนยันว่า รัฐบาลควรฟังเสียงประชาชน และไม่สนับสนุนให้ใช้ความรุนแรงในทุกรูปแบบ ควบคู่ไปกับการทำหน้าที่ในสภา เพื่อเดินหน้าทวงถามความจริง และหาทางออกที่สันติให้กับประเทศต่อไป