“ส.ส.พะเยา” บี้รัฐช่วยชาวนาหลังราคารับซื้อข้าวตกต่ำ ชี้เกษตรกรจะอดตายกันหมดทั้งประเทศแล้ว
นายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ ส.ส.พะเยา พรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีชาวนายิงพนักงานรับซื้อข้าวเปลือก เสียชีวิตที่จังหวัดพะเยา ว่า ปัญหาเกิดจากชาวนาถูกกดราคารับซื้อข้าวเปลือก โดยครั้งแรกที่นำไปขายได้กิโลกรัมละ 8 บาท แต่ครั้งที่สองได้เพียงกิโลกรัมละ 5 บาท ทั้งที่ราคาประกาศรับซื้ออยู่ที่ 12 บาท จึงเกิดความเครียดสะสม เพราะไม่มีสิทธิ์ต่อรองราคา สถานการณ์บีบบังคับให้ต้องขายข้าวแบบขาดทุน เนื่องจากต้องนำเงินมาใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน ดังนั้น รัฐบาลต้องประกาศประกันราคาให้ตรงกับความเป็นจริง ไม่ใช่ประกาศราคารับซื้ออยู่ที่กิโลกรัมละ 12 บาท แต่ขายได้จริงกิโลกรัมละ 8 บาท โดยชดเชยให้กิโลกรัมละ 3 บาท ซึ่งไม่เพียงพอกับต้นทุนการปลูกข้าว ราคาที่เหมาะสมควรจะอยู่ที่กิโลกรัมละ 15 บาท จึงจะเพียงพอนำไปใช้จ่าย ใช้หนี้สิน และนำไปจ่ายดอกเบี้ย ธ.ก.ส.
ทั้งนี้ ในสมัยที่พรรคเพื่อไทยเป็นรัฐบาล มีการตั้งคณะกรรมการกลาง เจ้าหน้าที่ปกครองท้องถิ่น และตัวแทนชาวนาร่วมกันเจรจาต่อรองราคารับซื้อข้าวเปลือกกับท่าข้าวและโรงสี เพื่อให้เกิดความเป็นธรรมกับชาวนา ซึ่งขณะนั้นราคาข้าวอยู่ในเกณฑ์ที่ชาวนาพอใจ แต่ในปัจจุบันชาวนาขายข้าวทั้งน้ำตา ขณะที่รัฐบาลไม่เคยสนใจดูแลเรื่องนี้ ทั้งที่เกษตรกรเป็นอาชีพที่ขับเคลื่อนเศรษฐกิจให้กับประเทศ ในตอนนี้ที่สถานการณ์ของประเทศตกต่ำลงทุกด้าน แต่ไม่มีด้านใดเลยที่รัฐบาลจะเข้ามาช่วยเหลือ แม้แต่ชาวนาที่ถือว่าเป็นต้นทางของผลผลิตการส่งออกที่สำคัญอย่างข้าว ก็ถูกทอดทิ้ง การออกนโยบายต่างๆ แก้ไขปัญหาไม่ตรงจุด ซ้ำยังออกมาตรการที่ประชาชนส่วนใหญ่เข้าไม่ถึง เช่น โครงการคนละครึ่ง กลุ่มที่ลงทะเบียนได้ทันคือคนที่เข้าถึงเทคโนโลยี ในขณะที่คนที่เดือดร้อนและต้องการความช่วยเหลืออย่างเร่งด่วน คือเกษตรกร กลับไม่มีแม้แต่เงินทุนที่จะนำไปใช้จ่ายในชีวิตประจำวันและเข้าไม่ถึงมาตรการช่วยเหลือของรัฐบาล
“มาตรการของรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ เกาไม่ถูกที่คัน ปัญหาปากท้องประชาชนเป็นเรื่องใหญ่ หากประชาชนอดอยากหิวโหย แต่รัฐบาลอยู่สุขสบายมีข้าวเสิร์ฟถึงห้องทำงานบริการทุกวัน ฝ่ายค้านสะท้อนปัญหามาโดยตลอด แต่รัฐบาลกลับทำเหมือนตัดหางปล่อยวัด อะไรจะเกิดขึ้นในอนาคต เกษตรกรจะตายกันหมดทั้งประเทศอยู่แล้ว” นายวิสุทธิ์ กล่าว