“พิชัย เลิศพงศ์อดิศร” ชี้หลายพื้นที่ในเชียงใหม่เจ้าหน้าที่ อสม. ไม่พอตรวจโควิด-19 แนะแก้ระเบียบเพิ่มผู้ช่วย อสม.
นายพิชัย เลิศพงศ์อดิศร ผู้สมัคร นายก อบจ. เชียงใหม่ หมายเลข 1 พรรคเพื่อไทย พร้อมด้วย นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ อดีตโฆษกพรรคเพื่อไทย และนายวรชัย เหมะ ลงพื้นที่หาเสียงที่บ้านชมสวนวิวรีสอร์ท ตำบลเปียงหลวง อำเภอเวียงแหง จังหวัดเชียงใหม่ โดยมีประชาชนมาร่วมฟังปราศรัยจำนวนมาก
นายพิชัย กล่าวว่า ในการเดินสายหาเสียงในจังหวัดเชียงใหม่ ได้พบปะพี่น้องสาธารณสุขตำบล และ อสม. (อาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน) ทราบว่าในขณะที่โรคโควิด-19 กำลังกลับมาแพร่ระบาด โดยเฉพาะอย่างยิ่งในอำเภอเวียงแหงซึ่งมีชายแดนอยู่ติดกับประเทศเมียนมาร์ เจ้าหน้าที่ อสม. ต้องทำงานอย่างหนัก เพื่อเฝ้าระวังอย่างเข้มข้น โดยพบว่าจำนวน อสม. ต่อประชากรน้อย เจ้าหน้าที่ อสม. 1 คน ดูแลชาวบ้านถึง 40-50 หลังคาเรือนตลอด 24 ชั่วโมง อีกทั้งยังขาดงบประมาณในการจัดซื้ออุปกรณ์จำเป็น เช่น หน้ากากอนามัย เจลแอลกอฮอล์ เครื่องตรวจวัดอุณหภูมิ ซึ่งพรรคเพื่อไทยมีแนวคิดแก้ไขปัญหาโควิด-19 ระดับท้องถิ่นด้วยการแก้ไขระเบียบให้สามารถเพิ่มจำนวนผู้ช่วย อสม. เพิ่มงบประมาณจ้างงานนักศึกษาหรือผู้ว่างงานในแต่ละหมู่บ้านเป็นผู้ช่วย อสม. อย่างน้อยหมู่บ้านละ 2 คน พร้อมฝึกอบรมความรู้พื้นฐานพร้อมงบประมาณจัดซื้ออุปกรณ์จำเป็นให้ทุกหมู่บ้าน
“ตอนนี้ อสม. ในทุกอำเภอไม่ใช่แค่ที่เวียงแหงทำงานหนักมาก พรรคเพื่อไทยจึงขอเสนอแนะว่าควรจะแก้ไขระเบียบเพื่อเพิ่มจำนวนอาสาสมัคร อสม. เพิ่มงบประมาณ และเร่งจัดซื้ออุปกรณ์ที่จำเป็นในการตรวจโรค ซึ่งช่วงนี้ราคาลดลงมาก ควรจัดซื้อมาเตรียมพร้อมในช่วงที่ราคาไม่แพง เพื่อให้นักท่องเที่ยวมั่นใจว่าหากมาเที่ยวเชียงใหม่แล้วต้องปลอดภัยแน่นอน” นายพิชัย กล่าว
บทความที่เกี่ยวข้อง
นายศึกษิษฏ์ ศรีจอมขวัญ อดีตรองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี โพสต์ข้อความบน x ตั้งคำถามถึง MOU แร่แรร์เอิร์ธ ที่รัฐบาลไทย ไปลงนามกับสหรัฐฯ โดยมีข้อกังวลว่าไทยได้ประโยชน์อะไรจาก MOU ฉบับนี้ พร้อมชี้ให้เห็นว่า การไปลงนาม MOU ดังกล่าวโดยไม่ผ่านคณะรัฐมนตรีหรือรัฐสภาก่อนนั้นอาจขาดความรอบคอบ รัดกุม เสี่ยงต่อการเสียอำนาจการต่อรอง และหากลงนามกันแต่บอกว่าไม่ผูกพันยิ่งทำให้ประเทศเสียความน่าเชื่อถือบนเวทีโลก โดยนายศึกษิษฏ์ ได้เขียนข้อความดังนี้
อ่านต่อ
ทันตแพทย์หญิงศรีญาดา ปาลิมาพันธ์ สส.บัญชีรายชื่อ และรองเลขาธิการพรรค หารือในสภาผู้แทนราษฎร เมื่อวันที่ 29 ตุลาคม 2568 กรณีที่รัฐบาลไทยนำโดยนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี ไปลงนามร่วมกับประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา เรื่องแร่หายากหรือแรร์เอิร์ธ ว่านายกรัฐมนตรีไทยไปทำเรื่องใหญ่ที่สร้างความตกใจให้คนทั้งประเทศ ด้วยการปิดบังไปลงนาม MOU ซึ่งหมิ่นเหม่ต่อรัฐธรรมนูญ
อ่านต่อ