“เพื่อไทย” ตั้ง “คณะกรรมการผลักดันการแก้ไขรัฐธรรมนูญ” เพื่อติดตามการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ย้ำ ส.ส.ร. ต้องมาจากการเลือกตั้งทั้งหมด

พรรคเพื่อไทย นำโดย นายชัยเกษม นิติสิริ ประธานคณะกรรมการการเมือง พรรคเพื่อไทย นายชูศักดิ์ ศิรินิล รองหัวหน้าพรรค ประธานคณะทำงานฝ่ายกฎหมาย พรรคเพื่อไทย นายสมคิด เชื้อคง นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว นายโกศล ปัทมะ และนางสาวจิราพร สินธุไพร กรรมาธิการพิจารณาร่างรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย (แก้ไขเพิ่มเติม) ร่วมกันแถลงผลการประชุมติดตามร่างรัฐธรรมนูญฉบับแก้ไขเพิ่มเติม

นายชัยเกษม กล่าวว่า พรรคเพื่อไทยเห็นความสำคัญของการแก้รัฐธรรมนูญ ซึ่งต้องทำให้ได้ผลที่ดีต่อประเทศชาติและประชาชน จึงตั้ง “คณะกรรมการผลักดันการแก้ไขรัฐธรรมนูญ” เพื่อติดตามการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ซึ่งคณะกรรมการจะมาจากกรรมการการเมืองของพรรค และ กมธ.พิจารณาร่างรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย (แก้ไขเพิ่มเติม) ในส่วนของพรรค โดยจะทำงานร่วมกันในนามคณะกรรมการชุดนี้

นายชูศักดิ์ กล่าวว่า คณะกรรมการผลักดันการแก้ไขรัฐธรรมนูญ พรรคเพื่อไทย จะทำหน้าที่ติดตามการแก้ไขรัฐธรรมนูญเพิ่มเติม ซึ่งขณะนี้อยู่ในชั้น กมธ. ซึ่งประเด็นที่เราติดตามและอยากเสนอแนะวันนี้ คือ 1. การแก้ไขรัฐธรรมนูญที่เป็นกฎหมายสูงสุดของประเทศ ที่ควรจะยากหรือง่ายกว่าการแก้ไขกฎหมายธรรมดา พรรคร่วมฝ่ายค้านขอเสนอว่าจะต้องใช้เสียงไม่น้อยกว่ากึ่งหนึ่ง เพราะการแก้ไขในสภาที่จะต้องมีการประชุมร่วมกันระหว่าง ส.ส. และ ส.ว. เป็นสิ่งกระทำได้ยากอยู่แล้ว ดังนั้น การใช้เสียง 3 ใน 5 ตามที่รัฐบาลเสนอเท่ากับว่าจะทำให้แก้ไขรัฐธรรมนูญไม่ได้เลย 2. การแต่งตั้ง ส.ส.ร. ควรมาจากการเลือกตั้งของประชาชนทั้งหมด หรือควรมีการแต่งตั้งด้วย ซึ่งพรรคร่วมฝ่ายค้านมีความเห็นว่า การที่เรามี ส.ส.ร. ที่มาจากการเลือกตั้งของประชาชน จะเป็นการพิสูจน์ได้ว่าเราคำนึงถึงสิทธิเสรีภาพของประชาชนและเสียงของประชาชนเป็นสำคัญ ซึ่งระบบที่ดีควรจะให้ประชาชนที่เป็นเจ้าของอำนาจอธิปไตย 3. การทำประชามติ เราเสนอว่า เมื่อผ่านวาระที่ 3 ไปแล้ว ควรนำร่างนั้นกลับมาให้ประชาชนได้ทำประชามติด้วย

นพ.ชลน่าน ในฐานะ กมธ.พิจารณาร่างรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย (แก้ไขเพิ่มเติม) กล่าวว่า ประเด็นปัญหาที่กรรมาธิการฯเห็นไม่ตรงกัน คือรัฐสภาไม่มีอำนาจหน้าที่ในการจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ แต่จะต้องมี ส.ส.ร. มาดำเนินการ ทั้งนี้ คณะกรรมาธิการฯ มีเป้าหมายร่วมกันว่าจะพิจารณาให้แล้วเสร็จภายในวันที่ 8 มกราคม 2564 โดยจะเร่งรัดดำเนินการให้เร็วที่สุด ซึ่งตนจะนำเรื่องที่พรรคเพื่อไทยเสนอแนะเข้าสู่คณะกรรมาธิการพิจารณาร่างรัฐธรรมนูญฯ