ทีมเศรษฐกิจเพื่อไทย แนะรัฐคิดนอกกรอบมอบของขวัญให้คนไทย 4 กล่องใหญ่ แก้ไขวิกฤติประเทศ

นายจักรพงษ์ แสงมณี กรรมการบริหารและทีมเศรษฐกิจพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ปี 2563 เป็นปีที่ยากลำบากสำหรับคนไทย จากโรคระบาดครั้งประวัติศาสตร์ โควิด-19 ซึ่งประเทศไทยเลือกรับมือกับการระบาดในครั้งแรกอย่างสุดโต่ง ที่แลกด้วยผลกระทบทางเศรษฐกิจอย่างรุนแรงต่อพี่น้องประชาชน คิดเป็นมูลค่าหลายล้านล้านบาท วิกฤติครั้งนี้ไม่ใช่สถานการณ์เศรษฐกิจเหมือนครั้งใดที่เคยผ่านมา การจะใช้วิธีเดิมๆ จะไม่สามารถแก้ไขวิกฤติครั้งนี้ได้ หรือถ้าได้อาจใช้เวลานานจนความเดือดร้อนแผ่ขยายไปทั่ว รัฐบาลจึงควรคิดนอกกรอบ โดยภาคท่องเที่ยว ภาคการเกษตร SMEs แรงงาน และผู้ที่จบการศึกษาใหม่ ควรได้รับของขวัญปีใหม่ 2564 จากรัฐบาลเเด่พี่น้องประชาชนทั้งประเทศ โดย

  1. ปฏิรูปธุรกิจภาคการท่องเที่ยวเพื่อรองรับมาตรฐานการปฏิบัติใหม่ (new normal) ที่จะเกิดขึ้นในอนาคตเพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักท่องเที่ยว ฟื้นฟูแหล่งท่องเที่ยวตามธรรมชาติให้อยู่ในสภาพที่ดี ควบคู่ไปกับการลงทุนก่อสร้าง (man made) ให้มีจุดดึงดูดการท่องเที่ยวแหล่งใหม่
  2. ปฏิรูปภาคการเกษตรและธุรกิจเกี่ยวเนื่องที่มีประชากรกว่า 1 ใน 3 ของประเทศ รัฐบาลควรให้ความสำคัญในการนำความรู้ทางวิชาการและเทคโนโลยี มาใช้เพื่อสนับสนุนการผลิตทั้งด้านปริมาณและคุณภาพ ให้สอดคล้องกับความต้องการทั้งในประเทศและเพื่อการส่งออก และรัฐบาลควรสนับสนุนธุรกิจยุคใหม่ (start up) โดยสนับสนุนให้คนรุ่นใหม่ที่มีความคิดสร้างสรรค์เข้ามารวมพัฒนา ทั้งวิธีการผลิตสินค้าเกษตรที่มีคุณภาพดี และพัฒนาช่องทางการขาย แทนการคิดเพ้อฝันส่งจรวดไปดาวดวงอื่น
  3. ปฏิรูปภาคธุรกิจ SMEs ซึ่งคิดเป็นร้อยละ 90 ของบริษัทที่ประกอบการอยู่ สร้างรายได้คิดเป็นเกือบร้อยละ 50 ของ GDP ของประเทศ โดยขณะนี้มี SMEs จำนวนมากที่ขาดสภาพคล่องรุนแรง ทั้งที่หลายธุรกิจมีอนาคตและหลายธุรกิจกำลังเผชิญกับอุบัติการณ์การเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยี (technology disruption) ดังนั้นรัฐบาลต้องรีบเข้าไปช่วยเสริมสภาพคล่องให้ธุรกิจเหล่านี้ให้สามารถก้าวผ่านวิกฤตินี้ไปให้ได้ ส่วนที่เป็นธุรกิจที่จำเป็นจะต้องปรับเปลี่ยนเลิกราไป (disrupt) รัฐบาลควรเข้าไปชี้แนะ และพัฒนากลุ่มนี้ให้สามารถชุบชีวิตขึ้นในสภาพแวดล้อมใหม่ให้จงได้ การจะช่วย SMEs เพียงการพักชำระหนี้ หรือปล่อยเงินกู้ดอกเบี้ยต่ำ (Soft loan) เพียงร้อยละ 20 ของยอดหนี้ย่อมไม่เพียงพอ แต่รัฐบาลควรตั้งกองทุนเป็นการเฉพาะแก่ธุรกิจ SMEs ที่มีขนาดใหญ่เพื่อเพิ่มช่องทางให้ SMEs สามารถเข้าถึงแหล่งเงินทุนได้อย่างเพียงพอ
  4. ปฏิรูปภาคแรงงาน การเพิ่มความรู้ ความคิด และทักษะฝีมือแรงงานไทยเป็นรากฐานที่สำคัญที่สุดของทุกภาคส่วน รัฐบาลควรเร่งเพิ่มคุณภาพของทรัพยากรมนุษย์เพื่อรองรับการเปลี่ยนแปลงของการท่องเที่ยว การเกษตร การผลิต และการค้าของธุรกิจ SMEs มิฉะนั้นจะเปรียบเสมือนสภาวะที่มีรถยนต์ดีที่ปราศจากผู้ขับขี่และผู้โดยสาร โดยเชื่อว่าของขวัญ 4 ชิ้นนี้จะเป็นของขวัญที่มีค่าสำหรับคนไทยทั้งประเทศ