“ภราดร” ชี้ฝ่ายความมั่นคงไม่มีความพร้อมรับมือภัยคุกคามรูปแบบใหม่ เป็นต้นตอทำโควิด-19 ระบาด

พล.ท.ภราดร พัฒนถาบุตร เลขานุการคณะกรรมการกิจการพิเศษ พรรคเพื่อไทย และอดีตเลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) กล่าวถึงกรณีที่ผู้สื่อข่าวประจำทำเนียบรัฐบาล ตั้งฉายาให้รัฐบาลว่า VERY กู้ , นายกรัฐมนตรี “ตู่ไม่รู้ล้ม” และวาทะแห่งปีว่า “ไม่ออก..แล้วผมทำผิดอะไรหรือ” ว่า ฉายาดังกล่าว อาจเปรียบเสมือนการสะท้อนความรู้สึกแทนประชาชนผู้รักประชาธิปไตยก็ว่าได้ ยิ่งเราพิเคราะห์ลึกลงไปจะเห็นว่าที่มาของฉายาและวาทะเหล่านั้น ล้วนมีรากเหง้ามาจากพฤติการณ์ไร้ยางอายที่รัฐบาลสืบทอดอำนาจถือปฏิบัติต่อเนื่องมาทั้งสิ้น รัฐบาลอาศัยชายคาความมั่นคงที่เชื่อว่าเป็นจุดแข็งของตนมาตลอด แต่เวลานี้ความจริงได้เผยแล้วว่า ฝ่ายความมั่นคงที่เสมือนเข้มแข็งนั้น เพราะเขาใช้ความเป็นเผด็จการ สังคมจึงตรวจสอบเขาไม่ได้

“แต่เมื่อเกิดเหตุภัยคุกคามใหม่คือโรคระบาดใหม่และโรคอุบัติซ้ำโควิด-19 ขึ้น ความจริงก็เผยว่าฝ่ายความมั่นคงนั้น ไม่ได้แข็งแรง ไม่มีความพร้อมต่อการรับมือกับภัยคุกคามรูปแบบใหม่ แถมยังกลายเป็นต้นตอการระบาดเสียเอง แสดงถึงความหย่อนยานในการควบคุมชายแดน ปล่อยให้แรงงานข้ามชาติติดเชื้อโควิด-19 ลักลอบเข้ามาแพร่เชื้อในประเทศ นอกจากนี้ยังปล่อยปละละเลยให้มีบ่อนการพนัน จนนักพนันติดโควิด-19 มาแพร่เชื้อสร้างวิกฤติไปค่อนประเทศ จุดแข็งภูมิคุ้มกันของนายกรัฐมนตรีสืบทอดอำนาจเลยไม่หลงเหลือ ซึ่งข้อมูลการทุจริตที่สภาผู้แทนราษฎรจะแฉในการเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจนายกรัฐมนตรีที่กำลังจะเกิดขึ้น สัญญาณขยับเปลี่ยนตัวนายกรัฐมนตรีเริ่มใกล้ความจริงเข้ามาทุกทีแล้ว” พล.ท.ภราดร กล่าว