“นพ.สุรพงษ์” ชี้โควิด-19 ระบาดระลอกนี้รุนแรงน้อยกว่าระลอกแรก เหตุอัตราการเสียชีวิตลดลง แนะรัฐต้องจัดการบ่อนพนันทุกพื้นที่
นพ.สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี อดีตรองนายกรัฐมนตรี และอดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวในงานฟอรั่มพิเศษ “ประชาชนการ์ดไม่ตก รัฐบกพร่อง ทำไมประชาชนต้องรับเคราะห์? ร่วมหาทางออกกับพรรคเพื่อไทย” ว่า การระบาดของโรคโควิด-19 ในครั้งนี้ เป็นการระบาดระลอกที่ 2 ตามหลักสากล แต่ขอให้ประชาชนอย่าหวาดกลัว เนื่องจากความรุนแรงของไวรัสสายพันธุ์นี้น้อยกว่าสายพันธุ์ที่ระบาดเมื่อต้นปี 2563 จากอัตราการเสียชีวิตต่ออัตราผู้ติดเชื้อที่น้อยลง โดยในการระบาดระลอกแรกอัตราการเสียชีวิตต่อจำนวนผู้ติดเชื้อที่อู่ฮั่นอยู่ที่ร้อยละ 5-6 ในยุโรปอยู่ที่ร้อยละ 8-10 ในไทยอยู่ที่ร้อยละ 2 แต่ในการระบาดรอบนี้อัตราการเสียชีวิตน้อยลงมาก เช่น สิงคโปร์มีผู้ติดเชื้อ 58,000 คน เสียชีวิต 29 คน คิดเป็นร้อยละ 0.05 หรือมาเลเซียมีผู้ติดเชื้อ 1 แสนคน เสียชีวิต 340 คน หรือร้อยละ 0.03 ลดลงจากรอบแรก 5 เท่า ในขณะที่การรักษาพยาบาลมีความก้าวหน้ามากขึ้น และมีความพร้อมทางด้านสาธารณสุข โดยมียาหรือวัคซีนที่สามารถรักษาโรคได้แล้ว มีเจ้าหน้าที่ อสม. กว่าล้านคน มีโรงพยาบาลและการตรวจคัดกรองที่เพียงพอ จึงไม่น่ากลัวเท่าการระบาดในครั้งแรก แต่ต้องไม่ประมาท
นพ.สุรพงษ์ กล่าวว่า การแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 ระลอกที่ 2 เกิดจากการนำเข้าแรงงานต่างชาติอย่างผิดกฎหมาย โดยผ่านเข้ามาทางช่องทางธรรมชาติ ซึ่งต้องมีคนที่นำพาเข้ามา แต่วันนี้ยังไม่เห็นมีการสืบสวนและยังไม่มีการลงโทษแต่อย่างใด นอกจากนั้นยังมีเรื่องบ่อนการพนันที่เป็นซูเปอร์สเปรดเดอร์ในหลายพื้นที่ ซึ่งหากรัฐบาลตื่นตัวและมองเห็นปัญหา ต้องล็อกดาวน์พื้นที่ตั้งแต่มีการนำเข้าแรงงานต่างชาติ และเข้มงวดไม่ให้มีบ่อนการพนัน ทั้งนี้การล็อกดาวน์ที่เป็นการหว่านแหทั้งประเทศเหมือนครั้งที่แล้ว ไม่ควรเกิดขึ้นอีก เพราะไม่ได้ประโยชน์ในการป้องกันของเชิงระบาดวิทยา แต่การล็อกดาวน์เฉพาะจุดอย่างเข้มงวดเท่านั้นที่จะสามารถป้องกันได้ ทั้งนี้รัฐบาลต้องเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบจากการประกาศล็อกดาวน์ด้วย
ส่วนของประชาชนต้องตั้งการ์ดสูงด้วยการใส่หน้ากากอนามัย โดยเฉพาะกลุ่มเสี่ยงผู้สูงอายุและเด็กให้หลีกเลี่ยงไปในที่แออัด ส่วนประชาชนทั่วไปขอให้เลือกเดินทางไปในที่ๆ ผู้คนใส่หน้ากาก 100% หากเลี่ยงไม่ได้ต้องใส่หน้ากากอนามัยและเฟซชิลด์พร้อมกัน หมั่นล้างมือบ่อยๆ จะช่วยป้องกันโรคได้