“วรสิทธิ์” แนะรัฐบาลตัดงบซื้ออาวุธนำเงินช่วยประชาชน-ฟื้นฟูประเทศหลังวิกฤติโควิด-19

นายวรสิทธิ์ กัลป์ตินันท์ ส.ส.อุบลราชธานี พรรคเพื่อไทย ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการอุตสาหกรรม สภาผู้แทนราษฎร กล่าวว่า การระบาดของไวรัสโควิด-19 รอบใหม่ สร้างความเสียหายมหาศาลให้กับภาคอุตสาหกรรมทุกประเภท หน่วยงานที่เกี่ยวข้องมีการประมาณการณ์ความเสียหายที่เกิดขึ้นกับภาพรวมเศรษฐกิจไทย ไม่ต่ำกว่า 20,000 ล้านบาทต่อเดือน

ทั้งนี้ ภาคอุตสาหกรรมไทยวิกฤติหนัก ทั้งการผลิต การค้าขาย และการส่งออก ซึ่งหนักกว่าตอนเกิดวิกฤติต้มยำกุ้ง เพราะปัญหากระทบกับทุกภาคอุตสาหกรรม และมีแนวโน้มว่ารัฐบาล ไม่สามารถบริหารวิกฤติที่เกิดขึ้นให้อยู่ในวงจำกัดได้ ผู้ประกอบการหลายแสนรายประสบปัญหาสภาพคล่อง จนปิดกิจการไปเป็นจำนวนมาก ต้องยอมรับว่าสภาพเศรษฐกิจไทยไปต่อไม่ได้แล้ว

นายวรสิทธิ์ กล่าวต่อว่า รัฐบาลต้องเร่งทำงานเพื่อฟื้นฟูประเทศโดยเร็ว และต้องใช้งบประมาณทุกบาทให้เกิดประโยชน์สูงสุด เพราะงบประมาณมาจากภาษีของพี่น้องประชาชน ดังนั้นรัฐบาลต้องทำงานเพื่อรับใช้ประชาชน มาตรการที่ออกมาต้องดูว่าเป็นธรรมกับประชาชนหรือไม่ เพราะรัฐบาลเลือกที่จะปิดร้านค้า ร้านอาหาร ปิดตลาดนัด แต่ไม่ปิดธุรกิจกลุ่มทุนที่ใกล้ชิดรัฐบาล ซึ่งเป็นการเลือกปฏิบัติอย่างชัดเจน

“รัฐบาลต้องปรับแนวทางการใช้งบประมาณใหม่ นำงบประมาณทั้งหมดมาแก้ปัญหาประเทศชาติ ต้องไม่มีการทุจริตในโครงการรัฐทุกโครงการ เงินที่จะนำไปซื้ออาวุธยุทโธปกรณ์ให้กองทัพต้องไม่มีในงบประมาณปี 2565 รวมทั้งการก่อสร้างสาธารณูปโภคพื้นฐานต้องชะลอไว้ก่อน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ต้องบริหารงบประมาณให้โปร่งใส ใช้ภาษีทุกบาทให้คุ้มค่า หยุดการซื้อรถถัง เครื่องบิน เรือดำน้ำ สร้างถนน นำงบประมาณทั้งหมดไปช่วยเหลือประชาชน และเร่งฟื้นฟูประเทศ รัฐบาลต้องคิดให้เป็นอย่ามองผลประโยชน์ส่วนตัว มาก่อนผลประโยชน์ของประชาชน” นายวรสิทธิ์ กล่าว