นายกฤษฎา ตันเทอดทิตย์ ส.ส.หนองคาย และคณะทำงานเศรษฐกิจพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ตามที่รัฐบาลโดย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี รมว.กลาโหม และหัวหน้าทีมเศรษฐกิจ ออกมาตรการเยียวยาช่วยเหลือประชาชนในช่วงการระบาดของไวรัสโควิด-19 รอบใหม่ แต่ยังไม่ได้ให้รายละเอียดครบถ้วน โดยจะประกาศอย่างเป็นทางการหลังประชุม ครม. ในวันที่ 19 มกราคมนี้ จึงอยากให้ พล.อ.ประยุทธ์ คิดให้ครบกรอบ อย่าได้คิดครึ่งๆกลางๆ แล้วต้องมาตามแก้ หรือที่ถูกล้อเลียนว่าเป็นนโยบาย “ทราบแล้วเปลี่ยน” คือประกาศแล้วต้องมาเปลี่ยนตลอด ทำความสับสนและเพิ่มความลำบากให้กับประชาชนมากขึ้น และยิ่งตอกย้ำความล้มเหลวในการบริหารประเทศ

ทั้งนี้อยากให้พิจารณาว่าการเยียวยา 3,500 บาท 2 เดือน ไม่เพียงพอที่จะช่วยเหลือประชาชนได้ เพราะเฉลี่ยแล้วเหลือเพียงวันละ 117 บาทเท่านั้น ซึ่งประชาชนไม่พอเลี้ยงชีพอีกทั้งหนี้ได้เพิ่มขึ้นอีกมาก และยังไม่รู้ว่าสถานการณ์การระบาดจะยืดเยื้อหรือไม่ ดังนั้นจึงอยากเรียกร้องให้เยียวยาที่ 5,000 บาท 3 เดือน โดยต้องแจกประชาชนที่ลำบากให้ทั่วถึง และ 6,000 บาท 3 เดือน สำหรับ 5 จังหวัดที่ควบคุมเข้มข้น โดยเชื่อว่ารัฐบาลมีเงินเพียงพอจ่ายอยู่แล้ว จากเงินช่วยเหลือคราวที่แล้ว 1 ล้านล้านบาท ยังคงเหลืออีกเกือบ 5 แสนล้านบาท และงบประมาณปีนี้ตั้งเงินช่วยเหลือไว้อีก 1.3 แสนล้านบาท รวมแล้ว กว่า 6 แสนล้านบาท และหากจำเป็นต้องใช้เพิ่ม ควรจะไปตัดจากงบทางทหารที่ไม่จำเป็นออกไป โดยเฉพาะงบประมาณการซื้ออาวุธ และเรือดำน้ำ แล้วนำเงินมาช่วยประชาชนจะดีกว่า

ส่วนมาตรการช่วยเหลือธุรกิจ SMEs อยากให้มีแผนงานที่ชัดเจน และต้องมีปริมาณเงินที่เพียงพอ เพราะธุรกิจ SMEs เดือดร้อนอย่างหนัก และอาจต้องเลิกกิจการเป็นจำนวนมาก ซึ่งจะทำให้เกิดการว่างงานเพิ่มขึ้น จึงอยากให้รัฐบาลคิดให้ครบกรอบ และอยากให้คิดแผนฟื้นฟูเศรษฐกิจควบคู่ไปกับการเยียวยา และการป้องกันไวรัสโควิด-19 ด้วย เพราะเศรษฐกิจไทยมีโอกาสติดลบ และไม่เติบโต ซึ่งการระบาดครั้งใหม่นี้เกิดมาจากระบบที่หละหลวมของรัฐบาลที่ปล่อยให้มีการลักลอบเปิดบ่อนการพนัน และมีการลักลอบขนแรงงานต่างชาติเข้ามาในประเทศ ดังนั้น อย่าให้ประชาชนต้องมารับเคราะห์จากความผิดพลาดของรัฐบาล