“ผู้กองมาร์ค” เตือน พล.อ.ประยุทธ์ อย่าบริหารประเทศแบบขอไปที ทุกปัญหาสำคัญหมด เสนอ 5 มาตรการ เร่งแก้ปัญหาฝุ่นพิษ PM2.5 ให้ครบทุกมิติ

ร.ต.อ.วัฒนรักษ์ อำนรรฆสรเดช ประธานคณะอนุกรรมการนโยบายด้านสิ่งแวดล้อมและทรัพยากรธรรมชาติ และหัวหน้าศูนย์ข้อมูลสารสนเทศ พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ปัญหาฝุ่นพิษ PM2.5 ไม่ใช่เรื่องใหม่ของคนไทย เพราะเราพบเจอกับปัญหานี้อย่างหนักมาตลอด 6 ปี โดยหลายวันที่ผ่านมานี้ปัญหาฝุ่นพิษ PM2.5 มีค่าที่เกินมาตรฐานเป็นอย่างมาก ทำให้คน กทม. และปริมณฑล ไม่สามารถใช้ชีวิตประจำวันได้อย่างเป็นปกติ จากปัญหาที่ยืดเยื้อยาวนานจึงทำให้คนไทยส่วนใหญ่อดสงสัยไม่ได้ว่านี่เป็นเพราะ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ขาดความเข้าใจ หรือไม่สนใจกับปัญหานี้กันแน่ จึงทำให้เราต้องเจอกับปัญหาฝุ่นหนักๆ ทุกหน้าหนาว และทุกๆครั้งที่อากาศปิด ซึ่งการบริหารราชการแผ่นดินแบบนี้ ชาวบ้านเรียกว่า “บริหารแบบรอเวลาให้ฝุ่นหายไปเอง” โดยพรรคเพื่อไทยเป็นห่วงประชาชนคนไทยทุกคนเป็นอย่างมาก เพราะทุกวันนี้นอกจากเราจะต้องต่อสู้กับปัญหาโควิด-19 แล้ว ยังต้องผจญและแก้ปัญหาฝุ่นพิษอีกด้วย

ร.ต.อ.วัฒนรักษ์ กล่าวอีกว่า กรมควบคุมมลพิษ ได้ชี้แจงว่าร้อยละ 72.5 ของฝุ่นพิษ PM2.5 มาจากรถยนต์ และร้อยละ 28 มาจากรถขนาดใหญ่ นั้นหมายความว่ารถดีเซลเป็นอีก 1 ปัจจัยหลักที่ต้องเร่งแก้ไข พรรคเพื่อไทยขอเสนอแนะวิธีที่จะพลิกปัญหาฝุ่นพิษ PM 2.5 ให้เป็นโอกาส เพื่อรับมือวิกฤติฝุ่นอย่างสร้างสรรค์ เพื่อให้สามารถแก้ไขปัญหาได้อย่างครบทุกมิติ ดังนี้

  1. ปรับคุณภาพน้ำมันดีเซลให้ดีขึ้น และออกกฎหมายให้รถบรรทุกขนาดใหญ่ที่จะวางขายในตลาดหลังเดือนพฤษภาคม 2564 นี้ ต้องติดตั้งเครื่องกรองฝุ่นจากดีเซล (Diesel Particulate Filters) ซึ่งจะช่วยลดการปล่อย PM2.5 ลงได้มากถึงร้อยละ 82 และรถดีเซลที่มีอยู่ในประเทศให้ติดตั้งเครื่องดังกล่าวทั้งหมดภายในวันที่ 1 มกราคม 2565 โดยรัฐบาลมอบหมายให้มหาวิทยาลัยในประเทศไทยเป็นผู้วิจัย และรัฐบาลผลิตจำหน่ายในราคาทุน
  2. สนับสนุนการใช้พลังงานสะอาดทุกประเภท และดำเนินการปิดโรงงานไฟฟ้าถ่านหินทั้งหมดให้ได้ภายใน 1 ปี และออกนโยบายเพื่อช่วยเหลือบริษัทโรงงานไฟฟ้าถ่านหิน ให้มาร่วมพัฒนาผลิตพลังงานสะอาดแทน
  3. สนับสนุนและผลักดันให้พลเมืองเปลี่ยนมาใช้รถยนต์ไฟฟ้าแบบแบตเตอรี่ (BEVs) โดยต้องปรับเปลี่ยนรถโดยสารประจำทางทั้งหมดให้เป็นรถ BEVs ทันที และที่สำคัญที่สุดรัฐบาลควรช่วยสนับสนุนการสร้างสถานีชาร์จไฟฟ้าให้เพียงพอ โดยรัฐบาลควรสนับสนุนการร่วมลงทุนระหว่างภาครัฐและเอกชน (PPP) อย่างเร่งด่วน
  4. รัฐบาลควรที่จะให้มีการร่วมมือกันระหว่างกระทรวงมหาดไทยและองค์การปกครองส่วนท้องถิ่น เพื่อกำกับดูแลหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอย่างจริงจังในการตรวจ จับ ปรับ รถยนต์ที่ปล่อยควันดำและมีค่าไอเสียที่เกินมาตรฐานทันที เพราะกองบังคับการตำรวจจราจรเพียงหน่วยเดียว อาจจะไม่มีบุคลากรเพียงพอ จึงเป็นการที่ดีจะปฏิบัติราชการร่วมกัน
  5. ปัญหาโควิด-19 ทำให้คนส่วนใหญ่หวาดผวากับการใช้ระบบขนส่งสาธารณะ ทำให้ยอดผู้ใช้รถไฟฟ้าตกวูบลงถึง ร้อยละ 54.63 และอีกปัญหาคือค่าตั๋วรถไฟฟ้าราคาสูงเกินไป ดังนั้น หากรัฐบาลจะสนับสนุนการใช้ระบบขนส่งสาธารณะ เพื่อให้คนไทยสามารถเข้าถึง และลดปัญหาฝุ่นพิษได้ รัฐบาลควรที่จะสนับสนุนค่าตั๋วส่วนต่างให้กับบริษัททางด่วน และรถไฟฟ้ากรุงเทพ โดยลดค่าตั๋วเดินทางลงร้อยละ 50

“จากคำกล่าวที่ พล.อ.ประยุทธ์ พูดว่า ปัญหาบ่อน 100 นายกฯ ก็แก้ไม่ได้ เก่งกาจแค่ไหนก็ทำไม่ได้ทั้งนั้น ทำให้คนไทยอดคิดไม่ได้ว่า ชีวิตคงต้องเจอแต่ความมืดมน แต่พรรคเพื่อไทยมีความเชื่อมั่นว่า หากเราได้กลับมาบริหารประเทศ จะสามารถแก้ไขปัญหานี้ได้อย่างแน่นอน ไม่ว่าจะเป็นปัญหาโควิด-19 เศรษฐกิจ และปัญหาฝุ่นพิษ PM2.5 หรือปัญหาอื่นใด เพราะในทุกวิกฤติ ย่อมมีโอกาสแฝงอยู่ด้วยเสมอ” ร.ต.อ.วัฒนรักษ์ กล่าว