โฆษกพรรคเพื่อไทยเผย ต่างชาติประเมินไทยประชาธิปไตยถดถอย นักลงทุนต่างชาติถอนลงทุนกว่า 4 หมื่นล้านบาท
ผศ.ดร.อรุณี กาสยานนท์ โฆษกพรรคเพื่อไทย (4 กุมภาพันธ์ 2564) กล่าวถึงกรณีที่สถาบันวิจัย Economist Intelligence Unit (EIU) เผยแพร่ดัชนีประชาธิปไตยประจำปี 2563 ประเทศไทยอยู่อันดับที่ 73 ของโลก ลดต่ำลง 5 อันดับจากปี 2562 จาก 167 ประเทศ ประเทศไทยถูกจัดอยู่ในกลุ่มประเทศประชาธิปไตยแบบไม่สมบูรณ์ แม้จะจัดให้มีการเลือกตั้งตั้งแต่ปี 2562 แล้ว สะท้อนให้เห็นว่าพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ยิ่งบริหารประเทศนานเท่าไหร่ ประเทศยิ่งเสื่อมถอย ความเชื่อมั่นและความน่าเชื่อถือในสายตาประชาคมโลกยิ่งลดน้อยถอยลงมากขึ้นเท่านั้น การที่ประเทศไทยมีรัฐบาลที่เป็นประชาธิปไตยไม่สมบูรณ์ ยิ่งทำให้ต่างชาติเข้ามาลงทุนในไทยน้อยลงมากขึ้น ยืนยันได้จากมูลค่าการขอรับการส่งเสริมการลงทุนจากต่างประเทศ (FDI) ผ่านคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (BOI) ในช่วง 9 เดือนแรกของปีที่2563 ติดลบถึงร้อยละ 29 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน เม็ดเงินที่ควรจะมาขับเคลื่อนระบบเศรษฐกิจของประเทศหายไปกว่า 47,000 ล้านบาท
ผศ.ดร.อรุณี กล่าวต่อว่า ปัญหาของประเทศในขณะนี้ คือการที่ผู้นำประเทศปล่อยให้ระบบอุปถัมภ์แบบรัฐราชการเติบโตขึ้นสวนทางกับความกินดีอยู่ดีของประชาชน เช่นเดียวกับการมีกฎระเบียบที่ซับซ้อน ล่าช้า เอื้อประโยชน์กลุ่มทุนใหญ่ จนทำให้ผู้ประกอบการรายย่อยที่สายป่านสั้นล้มหายตายจากไปจากระบบเศรษฐกิจไทย ประเทศไทยจากที่เคยเป็นหนึ่งในผู้นำทางเศรษฐกิจในอาเซียน กลับกลายมาเป็นผู้ตามที่ก้าวไม่ทันเวียดนามทุกด้าน
“อยากฝากถึงพลเอกประยุทธ์ ก่อนการอภิปรายไม่ไว้วางใจที่จะมาถึงว่า สิ่งที่สถาบันต่างชาติหลายสถาบันประเมินรัฐบาล สะท้อนว่ารัฐบาลพลเอกประยุทธ์ ได้รับความไว้วางใจมากน้อยแค่ไหนในสายตาประชาคมโลก” ผศ.ดร.อรุณี กล่าว