โครงการ “ม.33 เรารักกัน” เป็นมาตรการอุ้มนายทุนใหญ่ ประชาชนได้ประโยชน์อย่างไร?
นายการุณ โหสกุล ส.ส.กรุงเทพ พรรคเพื่อไทย (4 กุมภาพันธ์ 2564) เปิดเผยว่า กรณีที่รัฐบาลเห็นชอบมาตรการช่วยเหลือแรงงานผู้ประกันตน ในโครงการ “ม.33 เรารักกัน” ตั้งแต่ 3,500 บาทถึง 4,500 บาท โดยนำเงินเข้าแอปพลิเคชันเป๋าตัง โดยแบ่งจ่ายเป็นรายสัปดาห์ เช่นเดียวกับโครงการ “เราชนะ” โดยคาดว่าอาจให้ประมาณ 1,000 บาทต่อสัปดาห์ โดยคาดว่าจะเริ่มจ่ายเงินให้ผู้ประกันตนได้ภายในเดือนมีนาคมนั้น ตนเองเห็นว่าเป็นมาตรการช่วยเหลือที่ไร้ความจริงใจกับผู้ประกันตน
นายการุณ กล่าวว่า อยากให้รัฐบาลให้ความสำคัญกับการช่วยเหลือพี่น้องประชาชนโดย ไม่มีนัยยะแอบแฝง ตนเองตั้งคำถามมาตลอดว่าเหตุผลใดรัฐบาลจึงเลือกจ่ายเงินผ่านแอปพลิเคชัน ทำไมไม่จ่ายเป็นเงินสดผ่านบัญชีที่ผู้ประตนสามารถไปกดมาใช้ได้เลย เพื่อให้นำไปชำระค่าใช้จ่ายต่างๆได้ตามความจำเป็น เช่น ค่าเทอมบุตรหลาน ค่าเช่าบ้าน ค่าผ่อนรถ แต่เมื่อจ่ายผ่านแอปพลิเคชันที่มีข้อจำกัดมากมาย ตนเองจึงเห็นว่าไม่ตอบโจทย์และเชื่อว่าน่าจะมีผลประโยชน์อื่นแอบแฝง
“รัฐบาลอย่าอ้างว่าเพื่อป้องกันโควิด เลยไม่อยากให้ประชาชนจับเงินสด หรือกลัวประชาชนเอาไปซื้อเหล้าดื่ม อย่าดูถูกและไปคิดแทนประชาชนเป็นอันขาด เพราะประชาชนจะนำเงินไปทำอะไรก็ให้เป็นดุลพินิจของเขา การที่รัฐจ่ายผ่านแอปพลิเคชันเพื่อให้ไปซื้อสินค้าจากนายทุนใหญ่ใกล้ชิดรัฐบาล ผมถือว่าไม่ได้ช่วยประชาชนด้วยความจริงใจ แต่เป็นมาตรการเพื่ออุ้มนายทุนใหญ่ของรัฐบาล โดยใช้ประชาชนเป็นเครื่องมือมากกว่า” นายการุณ กล่าว