“วัฒนรักษ์” เสนอรัฐนำนโยบายแก้ไขปัญหาน้ำท่วม น้ำแล้งและน้ำกร่อยของพรรคเพื่อไทย ไปแก้ปัญหาให้ประชาชน

(7 กุมภาพันธ์ 2564) ร.ต.อ.วัฒนรักษ์ อำนรรฆสรเดช ประธานคณะอนุกรรมการด้านสิ่งแวดล้อมและทรัพยากรธรรมชาติ และผู้อำนวยการศูนย์ข้อมูลสารสนเทศ พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า หลายวันมานี้คนกรุงเทพฯและปริมณฑล ต้องประสบกับปัญหาน้ำประปามีรสชาตกร่อยและเค็มนั้น เพราะปรากฏการณ์การยกตัวของน้ำทะเลที่ปากอ่าวไทยหนุนสูงกว่าปกติ ประกอบกับการที่น้ำในเขื่อนมีน้อย โดยกรมอนามัยได้ออกมาเตือนประชาชนกลุ่มเสี่ยง ได้แก่ ผู้ที่เป็นโรคไต โรคหัวใจ โรคความดันสูง โรคเบาหวาน ผู้สูงอายุ เด็กเล็ก และสัตว์เลี้ยงขนาดเล็ก โดยให้คำแนะนำว่าควรที่จะหลีกเลี่ยงการบริโภคน้ำดังกล่าว ซึ่งหากเป็นแบบนี้ จะทำให้ชาวบ้านจำนวนมากที่ไม่มีทางเลือกนั้นจะสามารถดำรงชีวิตให้ปลอดภัยได้อย่างไร ซึ่งจากเหตุการณ์ดังกล่าวประชาชนยังมองไม่เห็นถึงนโยบายการแก้ไขปัญหาของรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ที่ชัดเจนเลย

ร.ต.อ.วัฒนรักษ์ กล่าวอีกว่า จากการที่พรรคเพื่อไทย ได้เคยนำเสนอนโยบายในการแก้ไขปัญหาน้ำท่วม น้ำแล้ง และน้ำกร่อย แล้วนั้น แต่ยังไม่เคยเห็นการดำเนินการของรัฐบาลที่ชัดเจน และในครั้งนี้หวังว่า พล.อ.ประยุทธ์ จะเห็นแก่ผลประโยชน์ส่วนรวม โดยการนำนโยบายที่ทางพรรคเคยนำเสนอกลับมาเพื่อดำเนินการแก้ไข ดังนี้

  1. จัดทำโครงการเพื่อแก้ไขปัญหาต่างๆ โดยไม่ต้องกู้เงิน อาทิเช่น การสร้างเขื่อนและประตูเพื่อกันน้ำทะเลหนุนและจัดทำประตูเพื่อระบายน้ำลงทะเลรอบกรุงเทพฯ/สมุทรปราการ พร้อมจัดทำนโยบายเพื่อเพิ่มพื้นที่สีเขียวสำหรับการพักผ่อนหย่อนใจ รวมถึงการสร้างพื้นที่แก้มลิงตามแนวพระราชดำริ ในแนวบริเวณที่ลุ่มของแม่น้ำสายหลักทั่วประเทศ รวมถึงแม่น้ำโขงด้วยเพื่อเก็บกักน้ำไว้ในเวลาที่น้ำมามากเรียกว่าเบรคน้ำ สำหรับเก็บไว้ใช้ในยามที่น้ำมีน้อย
  2. ขุดเขื่อนและแม่น้ำสายหลักที่ไม่ไกลกันมากให้เข้าหากันเหมือนดังที่เคยทำมาแล้ว โดยเชื่อมแม่น้ำยมเข้ากับแม่น้ำน่าน ซึ่งจะทำให้สามารถผันน้ำได้ตามปริมาณของน้ำได้
  3. สนับสนุนการสร้างป่าชุมชน 1 หมู่บ้าน 1 ป่าชุมชน เพื่อทำให้เกิดพื้นที่ชุ่มน้ำมากขึ้น
  4. ฟื้นฟูป่าต้นน้ำ และแนะนำชาวบ้านในการปลูกหญ้าแฝกเพื่อกันดิน (Soil Erosion) ตามแนวทางพระราชดำริของในหลวงรัชกาลที่ 9

“ปัญหาน้ำท่วม น้ำแล้ง และน้ำกร่อย ดังกล่าวนั้น ทำให้ประเทศไทยเกิดความเสียหายมามากแล้ว และมีหลายครั้งที่เกิดอันตรายถึงชีวิต ดังนั้นถึงเวลาแล้วที่รัฐบาลควรที่จะนำนโยบายข้างต้นทั้งหมดไปใช้ เพื่อให้เกิดการแก้ไขปัญหาเรื่องน้ำ ได้อย่างยั่งยืน เพราะการทำเพียงแค่บางข้อนั้นจะไม่สามารถแก้ไขปัญหาได้ทั้งหมด เพราะปัญหาดังกล่าวทำให้เกษตรกรส่วนใหญ่ยังคงประสบกับความทุกข์ยากอยู่จนทุกวันนี้ และคนไทยทุกคนควรที่จะมีน้ำประปาที่สะอาดและได้มาตรฐานสากลเพื่อใช้ในการอุปโภคและบริโภค ซึ่งหากพล.อ.ประยุทธ์ไม่รีบแก้ไข ก็อาจจะต้องม้วนเสื่อเก็บของกลับบ้านไปเพราะเรื่องน้ำก็เป็นได้” ร.ต.อ.วัฒนรักษ์ กล่าว