ดูเพื่อนบ้านแล้วย้อนดูตัว “พิชัย” เตือนรัฐบาล แก้ไขรัฐธรรมนูญเสร็จแล้วให้รีบลาออก ก่อนที่จะถูกไล่เหมือนเมียนมา

(9 กุมภาพันธ์ 2564) นายพิชัย นริพทะพันธุ์ รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทยด้านเศรษฐกิจ กล่าวว่า สถานการณ์การประท้วงการปฏิวัติในเมียนมาได้เริ่มลามไปทั้งประเทศเมียนมาแล้ว แสดงให้เห็นชัดเจนว่าคนเมียนมาเข็ดหลาบจากการที่ทหารปกครองแล้วไม่สามารถพัฒนาประเทศได้ การปกครองของทหารทำประเทศเมียนมาถดถอยไปหลายสิบปี จนประเทศเมียนมาที่เคยมีศักยภาพสูง ที่ในอดีตถึงขนาดมีเลขาฯยูเอ็น เป็นชาวเมียนมา แต่กลับต้องล้าหลังกว่าทุกประเทศในอาเซียนก็เพราะทหารปกครอง ต่อมาเมื่อมีการเลือกตั้งเศรษฐกิจเมียนมาก็พัฒนาดีขึ้นอย่างทันตาเห็น ทำให้คนเมียนมาเริ่มเห็นความหวัง ดังนั้นเมื่อทหารเมียนมากลับมาปฏิวัติครั้งใหม่ ประชาชนจึงไม่ยอมรับและออกมาประท้วงกันเป็นจำนวนมากแทบทั่วประเทศ เพราะคงไม่อยากถอยหลังกลับไปแบบเก่าอีกต่อไปแล้ว

ทั้งนี้ รัฐบาลสหรัฐ และ ยูเอ็น รวมทั้งรัฐบาลประเทศต่างๆในโลกเสรี ได้เป็นกำลังให้กับคนเมียนมาในการต่อต้านการปฏิวัติครั้งนี้ ทั้งนี้เชื่อว่าหากทหารเมียนมายังดื้อรั้น ประเทศเมียนมาจะยิ่งถอยหลัง และเป็นประเทศล้มเหลวเหมือนที่เป็นมาในอดีตที่เมียนมาตกอยู่ภายใต้ทหารปกครองถึง 50 ปี ดังนั้น ในฐานะคนที่เคยถูกกระทำเมื่อแสดงความคิดเห็น จึงอยากเรียกร้องให้ทหารเมียนมาเคารพการแสดงความคิดเห็นของประชาชนชาวเมียนมา และอย่าได้ใช้ความรุนแรงกับผู้ชุมนุมที่ชุมนุมอย่างสันติ ซึ่งเสรีภาพในการแสดงออกต้องได้รับความเคารพตามหลักสากลทั่วโลก ซึ่งรวมถึงในประเทศไทยด้วย

ดังนั้น จึงอยากขอเตือนไปยังพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว. กลาโหม ให้จับตาดูสถานการณ์ในประเทศเมียนมาให้ดี เพราะเชื่อว่าสถานการณ์ในเมียนมาจะลุกลามมายังประเทศไทยแน่ เพราะมีสภาพไม่ต่างกัน พลเอกประยุทธ์ได้ทำการปฏิวัติและทำให้เศรษฐกิจไทยเสื่อมถอยมาโดยตลอด จากประเทศที่เคยมีศักยภาพที่จะเป็นผู้นำอาเซียนกลายเป็นประเทศที่กำลังจะถูกทุกประเทศในอาเซียนแซงหมด รวมถึงเมียนมาด้วย ถ้าคนเมียนมาสามารถต่อต้านการปฏิวัติครั้งนี้ได้ ต่อมายังสืบทอดอำนาจต่อด้วยรัฐธรรมนูญที่เขียนขึ้นเอง และไม่ต่างกับข้ออ้างของทหารเมียนมาที่ทำการปฏิวัติ ซึ่งทำให้เศรษฐกิจไทยที่แย่อยู่แล้วต้องยิ่งทรุดหนัก จนมองไม่เห็นอนาคต โดยเฉพาะอย่างยิ่งในภาวะที่โลกเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วจึงทำให้เศรษฐกิจไทยยิ่งทรุดและตกต่ำลงเร็วขึ้น เพราะนอกจากประชาคมโลกจะไม่ยอมรับพลเอกประยุทธ์แล้ว ความรู้ความสามรถของพลเอกประยุทธ์ก็ยังต่ำกว่ามาตรฐานมาก ยิ่งพลเอกประยุทธ์อยู่นานเท่าไหร่ เศรษฐกิจไทยก็ยิ่งจะเสื่อมถอยลงไปเท่านั้น คนไทยน่าจะรู้ซึ้งแล้วจากผลงานการบริหารที่ล้มเหลวมาตลอด 6 ปีกว่านี้ และคงจะทนกันไม่ไหว ไม่ต่างจากคนเมียนมาที่จะออกมาขับไล่ทหารที่ไร้ความสามารถ ถ้าพลเอกประยุทธ์ยังดื้อรั้นก็จะทำให้ประเทศไทยยิ่งย่ำแย่ เป็นประเทศล้มเหลวไม่ต่างจากประเทศเมียนมาที่อยู่ภายใต้การปกครองของทหารมาตลอด 50 ปี

อย่างไรก็ดี หวังเป็นอย่างยิ่งว่าสถานการณ์กดดันในเมียนมาจะทำให้พลเอกประยุทธ์ได้สำนึก และจัดการเร่งแก้รัฐธรรมนูญให้เป็นประชาธิปไตยอย่างแท้จริงโดยเร็ว เลิกเล่นเกมยื้อการแก้รัฐธรรมนูญเหมือนที่ทำกันอยู่ เพราะจะเป็นระเบิดเวลาสร้างความไม่พอใจให้ประชาชนเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ ซ้ำเติมกับสภาวะเศรษฐกิจที่ทรุดหนักจากความล้มเหลวของการบริหารประเทศ ซึ่งน่าจะทำให้ ประชาชนออกมาประท้วงกันครั้งใหญ่อีก ซึ่งอาจจะประท้วงกันใหญ่กว่าที่เมียนมาก็เป็นได้ โดยหลังจากแก้รัฐธรรมนูญแล้ว พลเอกประยุทธ์ก็ควรจะลาออกและเปิดให้มีการเลือกตั้งใหม่อย่างเสรีโดยปราศจากการแทรกแซง โดยพลเอกประยุทธ์ควรจะต้องวางมือจากการเมืองได้แล้ว เพราะยิ่งอยู่ไป ประเทศจะยิ่งเสื่อมถอยมากขึ้น และไทยจะกลายเป็นประเทศที่ล้มเหลวไม่ต่างจากเมียนมา