(18 กุมภาพันธ์ 2564) นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงครึ่งทางของศึกอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐมนตรีเป็นรายบุคคล ที่ฝ่ายค้านยังคงดาหน้าพุ่งเป้าถล่มไปที่ความล้มเหลวในการบริหารราชการแผ่นดินของตัวผู้นำรัฐบาล และรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้อง รวมถึงมีการเปิดโปงข้อมูลขบวนการทุจริตคอร์รัปชันจำนวนมาก ว่า ไม่เหนือความคาดหมายที่รัฐบาลตอบไม่ตรงคำถาม และพยายามจะโบ้ยให้เป็นความผิดของฝ่ายค้านที่ถามไม่ตรงคำตอบ ฝ่ายค้านพุ่งเป้าชำแหละโครงข่ายผลประโยชน์แผงอำนาจของรัฐบาลสืบทอดอำนาจ ซึ่งรัฐมนตรีโดยเฉพาะพี่น้อง 3 ป. ไม่สามารถชี้แจงได้ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ตอบเรื่องส่วยได้แค่เพียงไม่รู้ พล.อ. อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ตอบเรื่องต่อสัญญารถไฟฟ้าสายสีเขียวได้แค่เพียงไม่เกี่ยว พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม หนักสุด ตอบแทบทุกเรื่องด้วยการใช้แท็คติก ไม่ใช่ความผิดของรัฐบาลตัวเอง โบ้ยให้เป็นความผิดของรัฐบาลก่อน ทั้งที่อยู่มาเกือบ 7 ปี ฝ่ายค้านถามว่า ทำไมถึงใช้อำนาจมาตรา 44 สั่งปิดเหมืองทอง รวมถึงยกเลิกสัมปทานบัตรการทำเหมือง จนถูกฟ้องร้องเรียกค่าเสียหาย 2.53 หมื่นล้านบาท ถามว่า พล.อ.ประยุทธ์เคยประกาศว่าจะรับผิดชอบกรณีนี้แต่เพียงผู้เดียว แต่พอถูกฟ้อง กลับมีการเจรจาต่อรองให้ถอนฟ้อง เป็นการเอาผลประโยชน์ชาติแลกกับการถอนฟ้องใช่หรือไม่ ถ้าแพ้คดีขึ้นมาจริงๆจะควักกระเป๋าจ่ายเองไหม พล.อ.ประยุทธ์ ไม่ได้ตอบคำถามเหล่านี้ แต่ไปโยงจำนำข้าว กับบ้านเอื้ออาทร ในลักษณะถ้ามช้างตอบม้า ถามวัวตอบควาย พล.อ.ประยุทธ์ ยกการแก้ปัญหาโรคระบาดจากสัตว์สู่คน ที่อ้างว่าแก้ง่ายกว่าโควิด เพียงฆ่าไก่ 4-5ล้านตัว ก็ควบคุมได้ แต่มนุษย์ฆ่าทิ้งไม่ได้ ซึ่งเป็นคำอิบายที่ตื้นเขิน ในความเป็นจริงแม้พล.อ.ประยุทธ์ จะไม่ได้สั่งฆ่าคน แต่กำลังปล่อยให้ประชาชนอดตาย ฆ่าตัวตาย ปล่อยให้ประชาชนแบมือขออย่างไร้ศักดิ์ศรีของความเป็นมนุษย์หรือไม่

“2 วันที่ผ่านมา รัฐบาลตอบคำถามไม่ผ่าน คาดว่าหลังอภิปรายอาจจะนำไปสู่การปรับครม.เพื่อหาแนวทางอยู่ต่อ ในพี่น้อง 3 ป.คนที่อาจจะได้คะแนนไว้วางใจสูงสุดคือพล.อ.ประวิตร ตามมาด้วยพล.อ.ประยุทธ์ แม้จะสวนทางกับการประเมินของประชาชนก็ตาม” นายอนุสรณ์ กล่าว