“เพื่อไทย” ชี้หนี้เสียธนาคารพุ่ง โดยเฉพาะภาคท่องเที่ยว ต้องเร่งฉีดวัคซีนบุคคลากรให้เร็วที่สุด และเร่งรัดให้สินเชื่ออัตราดอกเบี้ยต่ำ
(24 กุมภาพันธ์ 2564) นายจักรพล ตั้งสุทธิธรรม ส.ส. เชียงใหม่ รองเลขาธิการและคณะทำงานเศรษฐกิจพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า จากผลการลงคะแนนเสียงของการอภิปรายไม่ไว้วางใจของพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมต. 9 คน แม้ทุกคนจะได้รับคะแนนโหวตให้ผ่านหมด เพราะพวกมากลากไป แต่ได้แสดงให้เห็นถึงความแตกแยกในรัฐบาลและในพรรคร่วมรัฐบาลอย่างเห็นได้ชัด การที่ส.ส.พรรคพลังประชารัฐ 7 คน ไม่โหวตให้กับ รมว. คมนาคมของพรรคภูมิใจไทย เท่ากับทำให้รัฐมนตรีของพรรคภูมิใจไทยสอบตกในสายตาของประชาชนเพราะชี้แจงไม่ชัดเจนจนส.ส.รัฐบาลไม่ยกมือให้ และส.ส.พรรคประชาธิปัตย์เอง 3 คน ไม่ยกมือให้กับหัวหน้าพรรคของตัวเองยิ่งเป็นการตอกย้ำการทุจริตในเรื่องถุงมือยางที่มีความเสียหาย 2,000 ล้านบาท นอกจากนี้ การที่ รมต.ที่มีข่าวพัวพันยาเสพติดและได้รับคะแนนโหวตน้อยสุดในครั้งที่แล้ว กลับได้รับคะแนนไว้วางใจสูงกว่าพลเอกประยุทธ์ แสดงถึงพลเอกประยุทธ์มีการยอมรับน้อยกว่า รมต.แป้งมันเสียอีก โดยมีคะแนนเท่ากันกับรองนายกฯที่ไปตอบการอภิปรายเพียง 10 วินาที แต่กลับได้คะแนนสูงสุด ในขณะที่ รมว.ศึกษาได้คะแนนการไว้วางใจน้อยที่สุดซึ่งสอดคล้องกับผลงานของการบริหารที่ล้มเหลวผ่านมา รองลงมาก็ รมว.แรงงานตามลำดับ ซึ่งรายหลังนี้ได้ข่าวว่าข้อมูลจาก รมช. เป็นเหตุให้ความไว้วางใจทรุด ดังนั้นเรื่องเหล่านี้จะเป็นชนวนความขัดแย้งในรัฐบาลและในพรรคร่วมรัฐบาลมากขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งทำให้รัฐบาลพลเอกประยุทธ์ที่มีผลงานย่ำแย่อยู่แล้ว จะยิ่งล้มเหลวมากยิ่งขึ้น
นายจักรพล กล่าวต่อว่า ผู้ที่ได้คะแนนไว้วางใจสูงสุดกลับเป็นหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย เป็น รองนายกฯและรมว. สาธารณสุข ไม่ใช่คนจากพรรคพลังประชารัฐ โดยได้คะแนนเสียงเพิ่มจาก 4 ส.ส.งูเห่าของพรรคก้าวไกล อย่างไรก็ดี แม้จะได้คะแนนมากสุด แต่กลับยังไม่มีหมายกำหนดการที่แน่นอน ว่าวัคซีนที่จะเข้ามาในเร็ววันนี้นั้นจะมีจำนวนเพียงพอที่จะฉีดให้กับประชาชนไหม จะฉีดให้ประชาชนได้ครบทุกคนเมื่อไหร่ ซึ่งจากข่าวสารที่ปรากฏ ปริมาณที่จะได้รับยังห่างจากจำนวนประชากรมาก และกว่าจะได้รับและทำการฉีดให้ประชาชน จะใช้เวลานานเป็นปีๆ กว่าจะฉีดให้ประชาชนได้ครบ ซึ่งจะทำให้การฟื้นตัวทางเศรษฐกิจล่าช้าไปด้วย โดยล่าสุดกลุ่มเอกชนที่ประกอบด้วย ประธานหอการค้า กรรมการผู้จัดการเอสซีจี นายกสมาคมภัตตาคาร ได้ออกมาเร่งรัดให้มีการกระจายการฉีดวัคซีนให้กับประชาชนโดยเร็วขึ้น เพื่อให้เศรษฐกิจฟื้นกลับมาได้เร็วที่สุด
นายจักรพล กล่าวเพิ่มเติมว่า ไม่นานมานี้ ธนาคารแห่งประเทศ (ธปท.) ได้แถลงว่าหนี้เสียได้เพิ่มขึ้นเท่าตัว โดยมีแนวโน้มที่จะเพิ่มขึ้นอีกเรื่อยๆ และกลุ่มธุรกิจท่องเที่ยว โรงแรม และธุรกิจต่อเนื่อง น่าเป็นห่วงมากสุด โดยกลุ่มธุรกิจโรงแรมมียอดเงินกู้กว่า 4 แสนล้านบาทเป็นกลุ่มที่ธนาคารพาณิชย์ยังต้องอุ้มอยู่ ซึ่งหากมีการกระจายการฉีดวัคซีนล่าช้า ปัญหาก็จะยิ่งมากขึ้น จึงอยากให้รัฐบาลได้เร่งเรื่องการกระจายการวัคซีนเป็นเรื่องหลัก และขออย่าได้คิดว่าการออกมาทวงเรื่องวัคซีนเป็นเรื่องการเมือง แต่ความจริงคือเป็นเรื่องเศรษฐกิจและเป็นเรื่องคอขาดบาดตาย เป็นการอยู่รอดทางเศรษฐกิจของประชาชนจำนวนมาก นอกจากนี้ พลเอกประยุทธ์เพิ่งได้พูดถึงซอฟท์โลนดอกเบี้ยต่ำเพื่อช่วยเหลือธุรกิจ SMEs โดยเฉพาะซอฟท์โลนในธุรกิจ SMEs ในภาคการท่องเที่ยว ที่คณะทำงานเศรษฐกิจของพรรคเพื่อไทยได้เสนอมาตั้งแต่ไตรมาส 2 ของปีที่แล้วแล้ว แต่รัฐบาลเพิ่งจะมาคิดทำตอนนี้ แม้จะสายไปหน่อยแต่ก็อยากให้รัฐบาลได้เร่งดำเนินการก่อนที่ธุรกิจ SMEs จะพากันปิดตัวกันหมดก่อน
“ในภาวะวิกฤติขณะนี้ รัฐบาลจะต้องคิดล่วงหน้าและเร่งดำเนินการ จะมาคอยดู รอให้สถานการณ์ย่ำแย่ก่อน ค่อยคิดจะดำเนินการ จะสายเกินไป ธุรกิจ SMEs ที่กำลังลำบากและสายป่านสั้นจะทนกันไม่ไหว และจะพากันปิดตัวเจ๊งกันหมด โดยเฉพาะธุรกิจ SMEs ด้านท่องเที่ยวที่ได้รับผลกระทบมากสุด และ น่าเป็นห่วงที่สุด ดังนั้น รัฐบาลจึงต้องเร่งการกระจายฉีดวัคซีนควบคู่ไปกับเร่งการช่วยเหลือออกซอฟท์โลนเพื่อประคองธุรกิจ SMEs ให้รอดไปได้ และ เมื่อเศรษฐกิจกลับมาปกติ เศรษฐกิจของไทยจะได้ก้าวหน้าต่อไปได้” นายจักรพล กล่าว