(8 มีนาคม 2564) ผศ.ดร.อรุณี กาสยานนท์ โฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวถึง กรณีที่ศาลรัฐธรรมนูญ จะมีคำวินิจฉัยในวันที่ 11 มีนาคม ต่อเนื่องไปจนถึงการประชุมรัฐสภาสมัยวิสามัญเพื่อพิจารณาญัตติแก้ไขรัฐธรรมนูญในวาระ 3 วันที่ 17-19 มีนาคม ว่าสุดท้ายปลายทางถ้าจะไม่ให้มีการเลือกตั้งตั้ง ส.ส.ร. หรือ การปิดทางจากท่าทีของ ส.ส.พรรคพลังประชารัฐ และ ส.ว.บางส่วน ที่ไม่ต้องการให้เกิดการมีส่วนร่วมจากภาคประชาชนในการแก้ไข จะทำให้สถานการณ์ทางการเมืองของประเทศยิ่งน่าเป็นห่วงมากขึ้นไปอีก

ผศ.ดร.อรุณี อรุณี กล่าวต่อว่าท่าทีที่ของส.ส.พรรคพลังประชารัฐ และส.ว.อีกหลายคนที่แสดงออกชัดเจนในการขวางการแก้รัฐธรรมนูญ สะท้อนได้ว่าเสมือนเป็นการด้อยค่าตัวแทนประชาชนเมินเฉยต่ออำนาจนิติบัญญัติ เพราะปัญหาการเมือง เศรษฐกิจที่รุมเร้าขณะนี้มีกุญแจดอกเดียวสามารถนำประเทศออกจากความมืดได้คือการเปิดทางให้มี ส.ส.ร.ที่มาจากประชาชน และการยินยอมให้แก้ไขรัฐธรรมนูญ คืนอำนาจให้ประชาชนมีส่วนร่วม ไม่ใช่ของกลุ่มบุคคลใดกลุ่มหนึ่งที่ปรารถนาอยากอยู่ในอำนาจ หากต่อจิ๊กซอว์ขบวนการนี้จะเห็นว่า หลายขั้นตอนผู้กำหนดเกมส์คือ บุคคลที่ใกล้ชิดผู้ที่อยากสืบทอดอำนาจ ส.ว.และ ผลพวงจากแม่น้ำหลายๆสายของ คสช.

“วันนี้รู้สึกเห็นใจพรรคร่วมรัฐบาลโดยเฉพาะพรรคประชาธิปัตย์ แม้จะทำตัวเป็นมิตรที่ดี แต่ดูไร้ความหมายและไม่เคยได้มิตรที่แท้จริง ดังจะเห็นได้จากการเลือกตั้งซ่อมที่ จ. นครศรีธรรมราช หากประชาธิปัตย์ยังเป็นนั่งร้านเผด็จการ ละทิ้งประชาชนที่เคยยืนอยู่เคียงข้างอาจเสียใจ พรรคปชป.เคยบอกเหตุผลในการเข้าร่วมรัฐบาลว่าต้องการให้แก้ไขรัฐธรรมนูญ ผลักดันจนเป็นวาระเร่งด่วน วันนี้การแก้รัฐธรรมนูญส่อแววล่ม ถ้าพรรค ปชป. อยากเดินหน้าต่อทางการเมือง ควรหันกลับมายืนข้างประชาชน หยุดพายเรือให้โจรนั่ง” ผศ.ดร.อรุณี กล่าว