“จักรพล” เร่งรัฐบาลยกระดับปัญหาฝุ่นพิษขึ้นเป็นวาระแห่งชาติ อย่าลอยแพคนเชียงใหม่ ปล่อยเด็กคนแก่สูดควันพิษตายผ่อนส่ง

(9 มีนาคม 2564) นายจักรพล ตั้งสุทธิธรรม ส.ส.เชียงใหม่ ในฐานะรองเลขาธิการพรรคเพื่อไทย เปิดเผยว่าปัจจุบันคุณภาพชีวิตของประชาชนในพื้นที่ภาคเหนือ น่าเป็นห่วงมาก เพราะสถานการณ์ฝุ่นควันพิษเกินมาตรฐาน หรือ PM.2.5 ก้าวขึ้นมาเป็นสถิติระดับโลก โดยขึ้นเป็นอันดับหนึ่งของโลก จากปัญหาที่เกิดขึ้นมาอย่างต่อเนื่องหลายปีโดยที่รัฐไร้ทางแก้ไข ที่ผ่านมาคณะกรรมาธิการต่างประเทศ สภาผู้แทนราษฎร ได้เคยเชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามาให้ข้อมูลและแนวทางแก้ปัญหาฝุ่นควันพิษ แต่ผลที่ออกมาคือแต่ละหน่วยงานไม่สามารถที่จะให้คำตอบถึงแนวทางการแก้ปัญหา น่าผิดหวังมาก รัฐบาลมีเครื่องมือทุกอย่าง แต่ทำงานไม่เป็น รวมทั้งเคยมีการตั้งคณะกรรมการแก้ปัญหาแต่ผลสุดท้ายคือการซื้อเวลา และสิ้นเปลืองงบประมาณโดยไม่ได้ประโยชน์อะไรเลย

นายจักรพล กล่าวด้วยว่า รัฐบาลทอดทิ้งให้พี่น้องประชาชนภาคเหนือต้องรับภาระในการหาทางเอาชีวิตรอดจากวิกฤติที่เกิดขึ้นเอง ทั้งปัญหาเศรษฐกิจ การระบาดของไวรัสโควิด ปัญหาคุณภาพชีวิต ที่คนเชียงใหม่ต้องการแค่อากาศบริสุทธิ์ แต่รัฐบาลเลือกที่จะปล่อยให้ประชาชนในพื้นที่ภาคเหนือต้องตายผ่อนส่งไปเรื่อยๆ โดยที่ไม่คิดจะหาทางแก้ไข

“เด็ก เยาวชนและผู้สูงอายุ เจ็บป่วยด้วยระบบทางเดินหายใจ เลือดกำเดาไหลเป็นประจำ บางคนเป็นโรคปอด เป็นโรคระบบทางเดินหายใจ เด็กบางคนไอจนเป็นเลือดเพราะสูดควันพิษ รวมทั้งโรงพยาบาลในพื้นที่รับมือไม่ไหวแล้ว เพราะจำนวนผู้ป่วยเพิ่มขึ้นทุกวัน พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ไม่ควรที่จะลอยตัวหนีปัญหา เพราะท่านไม่ได้ไปสูดควันพิษที่เชียงใหม่ ท่านเลือกที่จะอยู่ในเซฟโซน จึงไม่สนใจที่จะแก้ปัญหาที่เกิดขึ้น ทั้งนี้ถึงเวลาหรือยังที่ปัญหาฝุ่นควันพิษภาคเหนือควรยกระดับเป็นวาระแห่งชาติ รัฐบาลอย่าหนีปัญหาควรที่จัดการเรื่องนี้อย่างจริงจังเสียที หากไม่ทำอะไรเลยเชื่อว่าสถิติผู้เสียชีวิตจากควันพิษPM.2.5 จะมีตัวเลขมากกว่าผู้เสียชีวิตจากไวรัสโควิดอย่างแน่นอน” นายจักรพลกล่าว