“วัฒนรักษ์” แนะ “ประยุทธ์” ให้ใช้คริปโทเคอร์เรนซี และบล็อกเชน แก้วิกฤติเศรษฐกิจไทย

(14 มีนาคม 2564) ร.ต.อ.วัฒนรักษ์ อำนรรฆสรเดช ประธานคณะอนุกรรมการด้านสิ่งแวดล้อมและทรัพยากรธรรมชาติ พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า จากผลการศึกษาของศูนย์ข้อมูลสารสนเทศ พรรคเพื่อไทย ในช่วงที่เศรษฐกิจตกต่ำ ในปี 2563 แต่เหตุใด ธนาคารใหญ่ 6 แห่ง อาทิเช่น กสิกร ไทยพาณิชย์ กรุงศรีอยุธยา กรุงเทพ กรุงไทย และทหารไทย กลับมีกำไรสุทธิรวมแล้วสูงถึง 123,770 ล้านบาท ดังนั้นถึงเวลาแล้วที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ไม่ควรที่จะมองข้ามโอกาสการลงทุนแบบใหม่อย่าง Cryptocurrency (คริปโทเคอร์เรนซี) สินทรัพย์ดิจิทัลประเภทหนึ่งที่มีการเข้ารหัสโดยใช้โค้ดคอมพิวเตอร์เป็นสื่อกลางในการแลกเปลี่ยนมูลค่าผ่านอินเทอร์เน็ต เพราะผู้บริหารประเทศที่ดีควรปรับตัวให้ทันต่อความต้องการของตลาดโลก เพราะต่อไปคริปโทเคอร์เรนซี อาจจะไม่ใช่เป็นเพียงแค่สินทรัพย์ทางเลือกอีกต่อไป และ Blockchain (บล็อกเชน) การเก็บข้อมูลแบบนึ่งที่เก็บเป็นส่วน ๆ และนำมาร้อยต่อกันเรื่อย ๆ เหมือนโซ่คล้องกัน ปลอดภัยเพราะทุกคนในเครือข่ายรู้ว่าข้อมูลถูกเก็บ ณ เวลาใด มีการแก้ไขหรือเปล่า เป็นตัวปฎิวัติระบบทุนนิยม ทุนผูกขาด โดยจะทำหน้าที่ตัดตัวกลางในการรับและส่งเงินระหว่างบุคคลทั้ง 2 ฝ่าย ซึ่งประชาชนจะเป็นผู้กำหนดสัญญาระหว่างกัน ความสวยงามของระบบนี้คือการกระจายอำนาจคืนสู่ประชาชน (Decentralized) เราสามารถกู้เงินได้ทั่วโลกโดยไม่ต้องมีพ่อค้าคนกลาง และไม่มีความจำเป็นในการที่จะต้องถือเงินสด แถมการฝากเงินก็จะได้ดอกเบี้ยสูงถึงร้อยละ 10 เหตุที่ได้ดอกเบี้ยสูง เป็นเพราะเราไม่จำเป็นต้องจ่ายเงินให้กับธนาคารเพื่อเป็นตัวกลางในการแสวงหากำไรอีกต่อไป

ร.ต.อ.วัฒนรักษ์ กล่าวอีกว่า บล็อกเชนเป็นอีกหนึ่งสิ่งที่ทำให้รัฐบาลจะต้องฟังเสียงของประชาชนมากขึ้น เพราะประชาชนจะเป็นผู้กำหนดสัญญาเอง ซึ่งจะทำให้ผู้บริโภคได้รับผลประโยชน์มากขึ้น ปัจจุบันจำนวนคนใช้คริปโทเคอร์เรนซีทั่วโลกอยู่ที่ร้อยละ 0.1 เหมือนกับการใช้กลยุทธ์น่านน้ำสีน้ำเงิน (Blue Ocean Strategy) คือการตลาดที่ไม่ต้องแข่งขันกับใคร ดังนั้นหากรัฐบาลหันมาส่งเสริมให้คนไทยใช้คริปโทเคอร์เรนซี พัฒนาสกุลเงินดิจิทัลที่รัฐบาลไทยรับรองก็ยังทัน จริงอยู่ทุกการลงทุนมีความเสี่ยง แต่หากเราใช้งบประมาณเพียงร้อยละ 1 เพื่อลงทุน แล้วจะเป็นการเปิดโอกาสให้คนไทยสามารถเข้าถึงโอกาสการสร้างรายได้ในช่วงวิกฤตเศรษฐกิจแบบนี้ ก็ถือว่าคุ้มค่ามากแก่การลงทุน เพราะนี่อาจจะเป็นตลาดการลงทุนใหม่ของโลกที่ประเทศไทยไม่ควรพลาด แต่ผลกระทบจากการที่รัฐบาลสนับสนุนให้คนไทยศึกษาและเปิดโอกาสให้ใช้คริปโทเคอร์เรนซี นั้นจะส่งผลกระทบต่อรายได้ในกระเป๋าของเจ้าสัวหลายคน แต่ตอนนี้ก็คงถึงเวลาแล้วที่ พล.อ.ประยุทธ์ จะต้องเลือกข้างระหว่างพวกเจ้าสัวหรือประชาชนคนไทยทั้งประเทศ