“สุทิน” ยืนยัน ฝ่ายค้านเดินหน้าลงมติแก้ รธน.วาระ 3 ตั้ง ส.ส.ร. ยกร่างใหม่วันพรุ่งนี้

(16 มีนาคม 2564) นายสุทิน คลังแสง ประธานวิปฝ่ายค้าน แถลงผลการหารือวิปฝ่ายค้าน ซึ่งที่ประชุมมีมติยืนยันจุดยืนเดิมของพรรคฝ่ายค้าน ที่จะเดินหน้าร่วมลงมติ ร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ วาระ 3 โดยแก้มาตรา 256 และเพิ่มหมวดตั้ง ส.ส.ร. ยกร่างฉบับใหม่ในวันที่ 17 มีนาคม โดยเห็นว่าหากไม่ดำเนินการตามรัฐธรรมนูญมาตรา 256 ให้เกิดความสมบูรณ์อาจเป็นการดำเนินการที่บกพร่องไม่เป็นไปตามกฎหมาย

ประธานวิปฝ่ายค้าน ยอมรับเพราะยังสับสนว่าคำวินิจฉัยของศาลจะขัดต่อรัฐธรรมนูญหรือไม่ แต่หากให้เลือกขอเลือกดำเนินการตามกระบวนการที่รัฐธรรมนูญกำหนดไว้ ขณะเดียวกันในตอนนี้แต่ละฝ่ายยังตีความของกฎหมายไม่ตรงกัน โดยฝ่ายค้านกล่าวย้ำเข้าใจโดยสุจริตตามหลักวิชาการว่าสามารถเดินหน้ากระบวนการได้ ซึ่งหมายถึงการทำประชามติก่อนการยกร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ หลัง มี ส.ส.ร.แล้ว โดยไม่ใช่ก่อนการแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญ

ซึ่งคาดการณ์แนวทางชี้ขาดของฝ่ายกฎหมายรัฐสภา กรณีการเดินหน้าโหวตวาระ 3 ร่างรัฐธรรมนูญมี 2 ทางซึ่งหากมีมติว่าสามารถโหวตได้ พรรคการเมืองฝ่ายค้านยืนยันจะทำหน้าที่ในการร่วมโหวตให้ความเห็นชอบร่างกฎหมาย หากรัฐสภาให้ความเห็นชอบก็ต้องดำเนินการตามมาตรา 256 ซึ่งมี 9 อนุมาตรา จากนั้นก็จะพิจารณาว่าจะทำประชามติอย่างไร ซึ่งจะต้องร่วมกันหาข้อสรุป เพราะมาตรา 256 (8) กำหนดไว้ว่าหากจัดทำร่างกฎหมายเสร็จต้องนำไปทำประชามติถามประชาชน

หากฝ่ายกฎหมายเห็นว่าไม่สามารถที่จะเดินหน้าโหวตได้ ด้วยเพราะคำวินิจฉัยกลางของศาลรัฐธรรมนูญเมื่อวานนี้ คาดว่าอาจจะมีการเสนอถอนวาระนี้ออกในที่ประชุม ซึ่งเมื่อบรรจุระเบียบวาระไปแล้วหากจะถอนก็จะต้องเป็นมติของรัฐสภา ซึ่งหากเป็นแนวทางเช่นนี้ วิปฝ่ายค้านจะถกแถลงแสดงท่าทีอย่างเต็มที่อีกครั้งหนึ่ง โดยจัดเตรียมบุคคลอภิปรายแสดงเหตุผลไว้แล้วทุกพรรคฝ่ายค้าน ก่อนจะกล่าวย้ำว่าจะลงมติไม่ถอนวาระการประชุม และหากผลโหวตฝ่ายค้านแพ้ จากนั้นจะดำเนินการถามทุกฝ่ายรวมถึงประชาชนเพื่อให้คำตอบต่อสังคมว่า หากถอนวาระออกไปแล้วจะเดินหน้าอย่างไรต่อไป จะเสนอญัตติยกร่างใหม่หรือไม่และใครจะดำเนินการ และจะแก้รายมาตรา หรือจะเสนอให้แก้ทั้งฉบับ

ซึ่งหากจะต้องทำประชามติก่อนไม่ว่าจะเป็นการแก้ไขแบบรายมาตราหรือการยกร่างฉบับใหม่นั้น รัฐสภาจะใช้อำนาจตามกฎหมายมาตราใด ซึ่งทุกฝ่ายไม่ว่าจะเป็นรัฐบาล หรือหากศาลรัฐธรรมนูญจะกรุณาชี้แนะเพื่อเป็นประโยชน์ก็จะเป็นพระคุณ จะใช้มาตรา 256(8) หรือ มาตรา 166 ให้ ครม.ดำเนินการ ซึ่งหากไม่มีคำตอบที่ชัดเจนอาจตีความหมายได้ว่าการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ทั้งแบบรายมาตราหรือการยกร่างใหม่ทั้งฉบับไม่สามารถที่จะดำเนินการได้ถึงทางตัน