“จักรพล” จี้ “ประยุทธ์” เร่งทำ “พาสปอร์ตวัคซีน” และ “แก้รัฐธรรมนูญ” ทำเศรษฐกิจไทยฟื้น ชี้ ถ่วงการแก้รัฐธรรมนูญจะทำให้ไทยยิ่งถอยหลัง แนะ ปรับ ครม. ไม่ช่วย ต้องหาทางลงเพราะล้าสมัยตกยุคแล้ว
(17 มีนาคม 2564) นายจักรพล ตั้งสุทธิธรรม ส.ส. เชียงใหม่ รองเลขาธิการ และ คณะทำงานเศรษฐกิจพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า แอบลุ้นอยู่นานว่า พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี รมว. กลาโหม และ หัวหน้าทีมเศรษฐกิจ จะยอมไปฉีดวัคซีนหลังจากยึกยักมาหลายหน ความลังเลของพลเอกประยุทธ์ประกอบกับข่าวคราวที่มีหลายประเทศหยุดการใช้วัคซีนของแอสตร้าเซเนกาเพราะอาจจะมีผลข้างเคียง ทำให้ประชาชนขาดความมั่นใจว่าวัคซีนจะมีประสิทธิภาพจริงหรือไม่ ดังนั้นรัฐบาลควรจะต้องมีวัคซีนจากหลายบริษัทเพื่อให้ประชาชนมีทางเลือกในการป้องกันตัวเองจากไวรัสโควิด
นอกจากนี้ อยากให้พลเอกประยุทธ์ได้เตรียมการเรื่องพาสปอร์ตวัคซีนพร้อมไปกับการกระจายการฉีดวัคซีนอย่างเร่งด่วนโดยทันที ตามที่ตนได้เคยเสนอไว้แต่แรก เพราะยิ่งทำเร็วเท่าไหร่เศรษฐกิจไทยก็จะยิ่งฟื้นกลับมาได้เร็วขึ้นเท่านั้น โดยเฉพาะภาคการท่องเที่ยว และการค้าการลงทุน และควรจะจัดลำดับความสำคัญว่าคนกลุ่มใดควรจะได้รับการฉีดวัคซีนก่อนหลัง ไม่ให้มีความเหลื่อมล้ำ โดยกำหนดตามระบบขั้นตอนสาธารณสุขและความสำคัญต่อเศรษฐกิจ ซึ่งไม่น่าจะใช่กลุ่มแคดดี้ในสนามกอล์ฟของทหารอย่างแน่นอน นอกจากนี้ ระบบพาสปอร์ตแบบดิจิตอลน่าจะเป็นแนวทางที่ดีที่สุด เพราะจะสามารถเชื่อมโยงกับทั้งโลกและเป็นที่ยอมรับของนานาชาติทั้งการเข้าประเทศและการออกจากประเทศ และรัฐบาลต้องมั่นใจว่าวัคซีนที่จัดให้ประชาชนได้ฉีดป้องกันจะต้องเป็นที่ยอมรับของประเทศต่างๆทั่วโลกด้วย
นอกจากเรื่องวัคซีนและพาสปอร์ตวัคซีนแล้ว อีกเรื่องหนึ่งที่มีความสำคัญไม่แพ้กันและอาจจะมีความสำคัญมากกว่าในระยะยาวคือ การแก้ไขรัฐธรรมนูญให้เป็นประชาธิปไตยอย่างแท้จริง ต้องเร่งดำเนินการอย่างเร่งด่วนโดยต้องไม่เตะถ่วงเพียงเพื่อจะรักษาอำนาจกันอีกต่อไปแล้ว ทั้งนี้เพราะตลอดที่ผ่านมาสื่อหลักต่างประเทศเช่น Nikkei Asia, The Economist, The Washington Post, BBC, The Financial Times ฯลฯ ต่างก็ได้โจมตีพลเอกประยุทธ์และรัฐธรรมนูญสืบทอดอำนาจนี้ ซึ่งทำให้การเมืองของประเทศไทยบิดเบี้ยว และทำลายความเชื่อมั่น ทำให้การค้าการลงทุนจากต่างประเทศของไทยหดหายไปมาก ซึ่งหากไม่แก้ไขและคิดแค่ว่าจะตะแบงกันไปเรื่อยๆ เศรษฐกิจไทยก็จะทรุดลงต่อไปเรื่อยๆ ไม่ต่างอะไรกับสมัยที่ประเทศพม่าถูกเผด็จการทหารปกครองเป็นเวลานาน ทำให้เศรษฐกิจพม่าทรุดต่ำลงมาตลอด ซึ่งหากปล่อยต่อไปแบบนี้ เศรษฐกิจไทยก็จะค่อยๆเสื่อมลงเหมือนประเทศพม่าในอดีต คำถามคือเราจะปล่อยให้ประเทศไทยทรุดหนักขนาดนั้นก่อนหรือ ถึงจะคิดแก้ไขกันหรือ ต้องให้ออกมาต่อสู้แบบนองเลือดกันเหมือนในประเทศพม่าในตอนนี้ใช่หรือไม่ ทำไมเราจึงไม่เร่งแก้ไขก่อนปัญหาจะบานปลาย ซึ่งหากเกิดปัญหาความวุ่นวายผู้ที่ต้องรับผิดชอบทั้งหมดก็คงหนีไม่พ้นพลเอกประยุทธ์แต่เพียงผู้เดียว
ในภาวะเศรษฐกิจเสื่อมโทรม และมีแนวโน้มจะย่ำแย่ลงไปอีก ทุกคนในประเทศนี้จะต้องหันกลับมามองตัวเองและมองประเทศของเราว่าที่เราเป็นอยู่นี้จะสามารถก้าวหน้าและพัฒนาต่อไปได้ไหม ถ้าเห็นว่าไปไม่ได้หรือไปไม่รอดก็ควรจะต้องรีบเปลี่ยนแปลง ทั้งนี้ การปรับ ครม. ที่จะเกิดขึ้นเร็วๆนี้จะไม่สามารถแก้ไขปัญหาได้เพราะจะเพียงการแก้ปัญหาการเมืองภายในพรรครัฐบาลเท่านั้น ไม่สามารถจะแก้ไขปัญหาของประเทศได้เลย โดยเฉพาะพลเอกประยุทธ์เองต้องรู้ตัวว่าตัวเองล้าสมัยตกยุคแล้ว ยิ่งอยู่นานก็จะยิ่งทำประเทศล้าหลัง จึงควรหาทางลงที่เหมาะสม การแก้รัฐธรรมนูญแล้วตัวเองลาออกไปน่าจะเป็นหนทางที่ดีที่สุดสำหรับพลเอกประยุทธ์ ก่อนที่ประเทศจะย่ำแย่ไปกว่านี้