“วันนิวัติ” ชี้ “รัฐบาล” งบซื้ออาวุธมากกว่าอาหารกลางวันเด็ก แนะปรับปรุงหลักสูตรการศึกษาชู “Active Learning”เพิ่มทักษะเยาวชน
(22 มีนาคม 2564) นายวันนิวัติ สมบูรณ์ ส.ส.ขอนแก่น พรรคเพื่อไทย ในฐานะโฆษกคณะกรรมาธิการศึกษา สภาผู้แทนราษฎร เปิดเผยว่า ในการจัดการด้านการศึกษานั้นอยากให้รัฐบาล หรือ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการท่านใหม่ ให้ความสำคัญในด้านวิชาการ และปรับปรุงหลักสูตรการเรียนการสอนให้กระชับทันสมัย ทั้งนี้เนื่องมาจากสถานการณ์โควิดที่ระบาด ทำให้สถานศึกษาหลายแห่งจำเป็นต้องนำรูปแบบการเรียนออนไลน์และการเรียนทางไกลผ่านดาวเทียมเข้ามาใช้นอกเหนือจากการเรียนในห้องเรียนจริง ถึงแม้จะไม่สามารถทดแทนห้องเรียนจริงได้ แต่ในทางกลับกันถือเป็นการปรับกระบวนการเรียนรู้ครั้งใหญ่เพื่อรับมือความเปลี่ยนแปลง
นายวันนิวัติ กล่าวต่อว่า รัฐบาลจึงควรใช้โอกาสนี้ “เปลี่ยนวิกฤติให้เป็นโอกาส” ในการปรับหลักสูตรให้กระชับ ทันสมัย ทั้งนี้ หลักสูตรการศึกษาของไทยใช้เวลามากเกินไป สังเกตได้จาก ใน 1 ปี การศึกษา นักเรียนไทยต้องเรียน 1,300 ชั่วโมง ตรงกันข้ามนักเรียนฮ่องกงเรียนเพียง 800 ชั่วโมง แต่ผลสัมฤทธิ์กลับต่างกันอย่างมาก การเรียนมากไม่ได้ทำให้เด็กฉลาด ในขณะที่เด็กประถมจำนวนมากยังประสบปัญหาอ่านไม่ออกเขียนไม่ได้ สิ่งที่ควรป้อนให้กับเด็กคือวิชาที่จะเป็นเครื่องมือการเรียนรู้ ให้กับเขา การปรับหลักสูตรให้กระชับควบคู่ไปกับจัดลำดับความสำคัญ โดยที่ยังคงคุณภาพขั้นต่ำไว้ได้ ซึ่งการปรับหลักสูตรเช่นนี้จะเป็นประโยชน์ต่อไปอีกในอนาคต
นายวันนิวัติ กล่าวด้วยว่า กระทรวงศึกษาธิการควรใช้ วิกฤติในช่วงโควิดนี้เตรียมการสำหรับรูปแบบการศึกษาแบบ Active Learning หรือ การให้ผู้เรียนมีบทบาทในการแสวงหาความรู้และเรียนรู้อย่างมีปฏิสัมพันธ์ สามารถวิเคราะห์ สังเคราะห์ ประเมินค่าหรือ สร้างสรรค์สิ่งต่างๆ และพัฒนาตนเองเต็มความสามารถ รวมถึงการจัดประสบการณ์การเรียนรู้ให้เขาได้มีโอกาสร่วมอภิปรายให้มีโอกาสฝึกทักษะการสื่อสาร ทำให้ผลการเรียนรู้เพิ่มขึ้น 70% ซึ่งจะเป็นการช่วยฝึกประสบการณ์ให้กับนักเรียนรวมทั้งพัฒนาต่อยอดในอนาคตได้
“ในส่วนของค่าอาการกลางวัน คณะกรรมาธิการการศึกษาเคยได้มีการเสนอให้ปรับเงินอุดหนุนรายหัวในส่วนของค่าอาหารกลางวันของเด็กนักเรียนให้เหมาะสม โดยโรงเรียนขนาดเล็กจาก 20 บาทเป็น 36 บาท แต่รัฐบาลก็ไม่ได้ให้ความสำคัญ สุดท้ายขึ้นมาได้เพียง 1 บาท เทียบกับงบประมาณการจัดซื้ออาวุธยุทโธปกรณ์รัฐบาลกลับให้ความสำคัญมากเหลือเกิน ทั้งนี้รัฐบาลควรให้น้ำหนักความสำคัญกับการติดอาวุธทางปัญญาแก่เยาวชนผู้ที่เป็นอนาคตของชาติ มากกว่าการนำงบประมาณที่มีอยู่อย่างจำกัดไปปรนปรอสนองความอยากของนายพลไม่กี่คน” นายวันนิวัติ กล่าว