สุดสลด! “ทศพร” เผย ผู้ชุมนุมถูกยิงกระสุนทะลุปอดด้านหน้าตัดไขสันหลังเสี่ยงอัมพาตตลอดชีวิต วอนตำรวจยุติใช้ความรุนแรงกับประชาชน
(26 มีนาคม 2564) นายแพทย์ทศพร เสรีรักษ์ แถลงข่าวเรื่องความรุนแรงจากเจ้าหน้าที่รัฐกับผู้ชุมนุมจากเหตุการณ์ชุมนุมเมื่อคืนวันที่ 20 มีนาคมที่ผ่านมาว่า การชุมนุมของประชาชนในวันดังกล่าวนั้น เป็นการชุมนุมโดยสงบ ปราศจากอาวุธ ภายใต้กรอบรัฐธรรมนูญและไม่ได้ก่อเหตุความวุ่นวาย แต่เหตุที่เกิดขึ้นจากสองกลุ่มบุคคล กลุ่มแรกคือกลุ่มบุคคลที่เข้าไปก่อความวุ่นวายและมีพฤติกรรมคอยดักทำร้ายผู้ชุมนุมในที่เกิดเหตุ และในจุดลับตา และกลุ่มบุคคลที่สอง คือกลุ่มตำรวจ ที่ควบคุมสถานการณ์เกินกว่าเหตุจนกลายเป็นการทำร้ายร่างกายผู้ชุมนุม จนได้รับบาดเจ็บไปนอนโรงพยาบาล โดยเมื่อวันที่ 20 มีนาคมดังกล่าว ตนเองไปที่ ตชด.ภาค 1 เฉพาะที่ตนเองเห็นผู้ที่ถูกจับได้รับบาดเจ็บ จำนวน 16 คน แต่มีผู้บาดเจ็บสาหัส 4 คน แต่ก็มิได้นำส่งโรงพยาบาลจนกระทั่งตอนเช้า จึงค่อยพาไปส่งโรงพยาบาล แต่เขาไม่มีเงินจ่ายค่ารักษาจึงกลับมาโดยไม่ได้รับยา ซึ่งดูเป็นภาพที่น่าสะเทือนใจและบรรยายไม่ถูก
นายแพทย์ทศพร กล่าวต่อว่า ในที่ชุมนุม ตนเองเห็นภาพประชาชนถูกทำร้ายอย่างหนักและรู้สึกว่าตอนนี้คู่ขัดแย้งของประชาชนผู้ไปชุมนุมคือตำรวจ ซึ่งจริงๆแล้วไม่ใช่ คู่ขัดแย้งจริงคือพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐบาล เพราะประชาชนต้องการแก้ไขรัฐธรรมนูญ แต่กลับถูกรัฐบาลหลอกซ้ำแล้วซ้ำเล่าจนหมดความอดทน ดังนั้นคู่ขัดแย้งคือประยุทธ์ ตำรวจมีหน้าที่อำนวยความสะดวกและดูแลความสงบเรียบร้อยคุ้มครองความปลอดภัย แต่ไม่ใช่ทำร้ายผู้มาชุมนุม ซึ่งตำรวจมีศักยภาพสามารถดูแลความสงบเรียบร้อยได้
นอกจากนี้ ในการแถลงข่าว นายแพทย์ทศพร ได้เผยแพร่ภาพผู้บาดเจ็บจากเหตุการณ์ชุมนุมในครั้งที่ผ่านมา โดยบุคคลที่ได้รับบาดเจ็บเล็กน้อยจนถึงบาดเจ็บสาหัส กรณีผู้ได้รับบาดเจ็บมากที่สุด คือชายคนหนึ่งที่ถูกกลุ่มชายฉกรรจ์ดักรออยู่ในซอยวัดมหรรณพารามรุมทำร้าย โดยชายดังกล่าวพยายามวิ่งหนีออกมาจึงถูกปืนยิงเข้าที่หน้าอกด้านซ้ายทะลุปอด และแขนซ้าย และจากภาพเอ็กซเรย์ด้านข้างลำตัวพบว่า กระสุนทะลุปอดด้านหน้าตัดไขสันหลัง ทำให้ขาขยับไม่ได้ ซึ่งเสี่ยงต่อการเป็นอัมพาต ปัจจุบันนี้ยังนอนรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาล
“เอาจริงแล้ว ตำรวจแทรกซึมเต็มไปหมดในม็อบ ตำรวจเห็นคนจุดชนวนก่อความรุนแรงแต่ทำไมตำรวจไม่จับคนก่อเหตุ คนร้ายที่มาจุดชนวนความรุนแรงแล้วก็วิ่งไปหลบหลังตำรวจ เพื่อให้ตำรวจมาฉีดน้ำ ฉีดแก๊สน้ำตาใส่ผู้ชุมนุมที่ไม่ได้ก่อความรุนแรง นี่คือสิ่งที่ผมเห็นและอยากให้ตำรวจอย่าใช้ความรุนแรงกับประชาชนอีกเลย” นายแพทย์ทศพรกล่าว