“หมอโอชิษฐ์”แนะรัฐเร่aงตรวจเชิงรุกหาผู้ติดเชื้อโควิด จี้เพิ่มองค์ความรู้ให้กับ อสม.ช่วยคัดกรองผู้ติดเชื้อก่อนถึงมือหมอ
(26 มีนาคม 2564) นายแพทย์โอชิษฐ์ เกียรติก้องชูชัย ส.ส.ชัยภูมิ พรรคเพื่อไทย เปิดเผยถึงสถานการณ์การระบาดของไวรัสโควิด-19 ในประเทศไทย ว่า แม้ประเทศไทยจะเข้าสู่สภาพอากาศร้อน แต่ก็ไม่สามารถที่จะยับยั้งการระบาดของไวรัสโควิดได้ เพราะเชื้อไวรัสมีการปรับตัวให้ทนกับสภาวะอากาศได้ ดังนั้นรัฐบาลจะต้องเร่งตรวจหาเชื้อให้มากกว่านี้ เพื่อกันคนที่มีโอกาสติดดเชื้อปรือผู้ที่เป็นพาหะของเชื้อออกจากพื้นที่แล้วมาดูแลรักษา อย่ากลัวว่าตัวเลขผู้ติดเชื้อสูงขึ้น เพราะหากพบมากระบบสาธารณะสุขก็จะทำงานง่ายขึ้นด้วย
นอกจากนี้แล้วรัฐบาลต้องมีความจริงใจที่จะดูแลประชาชนมากกว่านี้ เพราะจากสถานการณ์ที่ไวรัสระบาดนั้น ระบบสาธารณสุ จะเป็นเครื่องมือในการต่อสู้กับไวรัสร้ายได้ดีที่สุด นอกจากนี้รัฐควรติดอาวุธ เพิ่มองค์ความรู้ให้กับอสม.เพื่อเป็นผู้ช่วยบุคลากรทางการแพทย์ในการตรวจหาผู้ติดเชื้อและตรวจในกลุ่มเสี่ยงในทุกพื้นที่ของประเทศ ซึ่งอสม.มีเครือข่าย ดังนั้นควรมีการอบรมอสม.และเตรียมความพร้อมทั้งเครื่องมือรวมทั้งงบประมาณ เพื่อพัฒนาขีดความสามารถของอสม.จะเป็นกำลังสำคัญในการป้องกันการระบาดของเชื้อได้ดีที่สุด
นายแพทย์โอชิษฐ์ กล่าวด้วยว่า จากสถานการณ์ทที่เกิดขึ้น รัฐบาลทั่วโลกให้ความสำคัญกับการพัฒนาระบบสาธารณะสุขมาเป็นอันดับ 1 รวมทั้งองค์กรอนามัยโลก เคยกล่าวว่า งบประมาณภาคสังคม ด้านการดูแลประชาชน จะต้องได้ไม่ต่ำกว่า 6% ของจีดีพีในแต่ละประเทศ แต่สำหรับกระเทศไทยงบประมาณของสาธารณะสุขถือน้อยมาก หากเทียบกับงบประมาณซื้ออาวุธไว้ฆ่าคน รัฐบาลมองเพียงความมั่นคงทางการทหาร และความมั่นคงของตัวพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี สำคัญกว่าชีวิตของพี่น้องประชาชน
“รัฐบาลต้องพูดความจริงกับประชาชน ถึงการฉีดวัคซีนต้านไวรัส ว่า คนที่ได้รับการฉีดวัคซีนแล้ว ไม่ได้การันตรีว่าผู้ที่ฉีดวัคซีนแล้วจะไม่ติดเชื้อเพราะคนที่ฉีดวัคซีนแล้วก็สามารถติดโควิดอีกได้ เพราะเชื้อไวรัสโควิด สามารถพัฒนาตัวเองเพื่อต้านวัคซีนได้ ดังนั้น ต้องไม่ชะล่าใจ การใส่แม๊ส และป้องกันตัวเองคือการป้องกันการติดเชื้อดีที่สุด ถ้ารัฐดำเนินการสม่ำเสมอจะช่วยลดการติดเชื้อได้มาก” นายแพทย์โอชิษฐ์ กล่าว