“วัฒนรักษ์” ชี้เป้ารัฐบาลใช้สิ่งแวดล้อมเข้าสู่อุตสาหกรรมยุคใหม่ พัฒนาเศรษฐกิจไทย
(27 มีนาคม 2564) ร.ต.อ.วัฒนรักษ์ อำนรรฆสรเดช ประธานคณะอนุกรรมการด้านสิ่งแวดล้อมและทรัพยากรธรรมชาติ พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ก่อนอื่นต้องขอขอบคุณคณะกรรมการนโยบายยานยนต์ไฟฟ้าแห่งชาติ ที่ได้กำหนดทิศทางในการส่งเสริมยานยนต์ไฟฟ้า เพื่อก้าวเข้าสู่สังคมคาร์บอนต่ำ (Low Carbon Society) ตามนโยบายที่พรรคเพื่อไทยและนักวิชาการหลายท่านได้เคยแสนอไปแล้ว ปัจจุบันโลกประสบกับปัญหาภาวะโลกร้อน และคนไทยก็ต้องประสบพบกับปัญหาฝุ่นพิษ PM2.5 ที่เพิ่มขึ้นในทุก ๆ ปี ซึ่งเกิดจากการเผาของประเทศเพื่อนบ้าน และบางครั้งก็เป็นฝุ่นจากประเทศเรากลับไปหาเค้าด้วยเช่นกัน ประเทศไทยเป็นสมาชิกองค์การอาเซียน และองค์การอาเซียนมีหลายแพลตฟอร์มที่พร้อมส่งเสริมความร่วมมือในระดับภูมิภาคอยู่หลายเครือข่าย ดังนั้นหากเราเร่งดำเนินการประสานงานก็จะสามารถแก้ไขปัญหานี้ได้ในทันที และถ้าหากไทยเราสามารถที่จะออกนโยบายรัฐในด้านสิ่งแวดล้อมให้ตรงตาม “เป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน ขององค์การสหประชาชาติ” ก็จะเป็นการเปิดโอกาสให้มีการจ้างงานใหม่ ๆ กับคนไทย ซึ่งในส่วนของการผลักดันเรื่องการใช้รถยนต์ไฟฟ้านั้น จะทำให้เกิดการจ้างงานใหม่มากกว่า 7.5 แสนตำแหน่ง และจะสามารถแก้วิกฤตเศรษฐกิจไทยให้ดีขึ้นตามลำดับ ซึ่ง มร.โจ ไบเดน ประธานาธิบดีสหรัฐ คนที่ 46 มองว่าเรื่องเศรษฐกิจและสิ่งแวดล้อมนั้นเป็น “เรื่องเดียวกัน” และจะเป็นการดีหาก พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ของเราจะเข้าใจถึงเทรนด์โลกว่า นโยบายที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมากขึ้นนั้น จะกลายเป็นโอกาสในการสร้างให้เศรษฐกิจไทยได้พัฒนาไปสู่ “อุตสาหกรรมสมัยใหม่” เพราะการพัฒนาในเรื่องของเทคโนโลยีมากขึ้น ก็จะเป็นการเพิ่มเติมการจ้างงานในธุรกิจใหม่
ร.ต.อ.วัฒนรักษ์ กล่าวอีกว่า พล.อ.ประยุทธ์ ควรที่จะย้ายกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม มาอยู่ในกลุ่มของกระทรวงเศรษฐกิจ เพราะนอกจากจะเพิ่มความร่วมมือในระดับกระทรวงแล้ว ยังพัฒนาสิ่งแวดล้อมไทยให้ดีขึ้น และสามารถช่วยลดภาระค่าใช้จ่าย ทั้งด้านสุขภาพและเพิ่มรายได้จากการท่องเที่ยว ประเทศไทยต้องเสียรายได้มากกว่า 1 แสนล้านบาทต่อปีกับปัญหาสุขภาพที่เกิดจากฝุ่น คนเป็นล้าน ๆ คนต้องมารับกรรมจากสิ่งที่ตัวเองไม่ได้ก่อ โดยการสูดหายใจเอาฝุ่นพิษเข้าปอดทุกวินาที สิ่งแวดล้อมไม่ใช่ปัญหาของการเสียเปรียบในการทำธุรกิจและการเติบโต หรือเสียโอกาสทางการค้าแต่อย่างใด แต่กลับกลายเป็นโอกาสใหม่แห่งการพัฒนาไปสู่สิ่งใหม่ที่ดีกว่าทั้งตัวเราและลูกหลานคนไทยทุกคน ดังนั้น พรรคเพื่อไทย เห็นว่า พล.อ.ประยุทธ์ ไม่ควรที่จะปล่อยให้โอกาสทองของการพัฒนาสิ่งแวดล้อมที่ควบคู่กับเศรษฐกิจหลุดลอยไป วันนี้เราจึงควรที่จะเตรียมพร้อมในการรับมือ และวางแผน เพื่อพัฒนาให้เราเข้าสู่อุตสาหกรรมยุคใหม่ไปด้วยกันได้แล้ว ดังคำภาษิตของ มร.ริชาร์ด ร็อดเจอร์ส นักแต่งเพลงระดับโลก กว่าวว่า “หนทางเดียวสำหรับอนาคตทุกคน คือเราต้องปรับปรุงคุณภาพสิ่งแวดล้อม โดยทุกคนต้องร่วมมือกัน”