“กิตติกร” เร่งรัฐบาลส่งเสริมอุตสาหกรรมผลิตไฟฟ้าจากแสงอาทิตย์ แนะภาคเอกชนเร่งสนองนโยบายรัฐช่วยไทยข้ามกำแพงการค้าโลก
(29 มีนาคม 2564) นายกิตติกร โล่ห์สุนทร ส.ส.ลำปาง พรรคเพื่อไทย ในฐานะ ประธานคณะกรรมาธิการพลังงาน เปิดเผยว่า จากการที่นายโจ ไบเดน ก้าวขึ้นสู่ตำแหน่ง ประธานาธิบดี แห่งสหรัฐอเมริกา โดยมีการประกาศนโยบายด้านการค้าที่ต้องปกป้องสิ่งแวดล้อม ทำให้วงการอุตสาหกรรมส่งออกมีความตื่นตัวที่จะทำกิจกรรมลดโลกร้อนกันอย่างจริงจังเพราะกลัวกระทบการส่งออก
นอกจากนี้ การใช้พลังงานแสงอาทิตย์ ทดแทนไฟฟ้า เป็นวิธีที่นิยมกันทั่วโลกเพราะลงทุนแล้วเห็นผลทันที ในประเทศไทยมีเงินทุนสนับสนุนจากสถาบันการเงิน หลายแห่ง ธนาคารทั้งรัฐและธนาคารเอกชน ที่พร้อมจะสนับสนุนในการลงทุนด้านพลังงาน นอกจากนั้นรัฐบาลยังสนับสนุนการลงทุนจากสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน หรือ BOI ช่วยให้โรงงานคืนทุนภายใน 2 ปีกว่า
นายกิตตติกร กล่าวด้วยว่า อุตสาหกรรมการส่งออกของไทย ซึ่งส่วนใหญ่ยังไม่ได้ทำกิจกรรมลดโลกร้อน ทำให้จะได้รับผลกระทบจากนโยบายไบเดน ซึ่งกีดกันการส่งออกไปยุโรปและอเมริกา เพราะเป็นกลุ่มประเทศที่รับภัยพิบัติการที่โลกร้อน ทั้งนี้ หากไทยส่งออกไปจีน ญี่ปุ่น สหรัฐอเมริกาและยุโรป การทำกิจกรรมลดโลกร้อนจะช่วยให้ข้ามกำแพงกีดกันการค้าไปได้
“การที่รัฐ ส่งเสริมการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ของโรงงานอุตสาหกรรม แต่โรงงานที่ซื้อไฟจากโรงไฟเอกชนหลายแห่ง ยังไม่ได้รับความสะดวกจากผู้ขายไฟ เพราะเกรงว่าทำแล้วจะขนานไฟกับโรงไฟฟ้าเอกชนไม่ได้ซึ่งเป็นความเข้าใจที่ผิด การห้ามไม่ให้โรงงานสร้างระบบพลังงานแสงอาทิตย์ เป็นการขัดนโยบายรัฐ รวมทั้งการตั้งเงื่อนไขกีดกันต่างๆก็จะกลายเป็นอุปสรรคสำคัญของการพัฒนาอุตสาหกรรมไทย ไม่ว่าจะเป็นนิคมอุตสาหกรรม หรือสวนอุตสาหกรรม ต่างอยู่ภายใต้กฎหมาย หากข้อกำหนดที่ กำหนดขึ้นเป็นอุปสรรคต่อการส่งออกจะกระทบต่อธุรกิจของไทย และยังส่งผลถึงประเทศชาติด้วย เพราะเป็นที่ทราบกันดีแล้วว่า การท่องเที่ยวพังพาบไปแล้วเพราะโควิด การส่งออกเท่านั้นเป็นความหวังหลักที่ยังเหลืออยู่ ดังนั้น ทุกภาคส่วนทั้งประเทศควรช่วยกันให้ความร่วมมือในการผลักดันการผลิตไฟฟ้าของโรงงานเพื่อลดต้นทุนและเป็นไปตามข้อกำหนดการค้าโลก” นายกิตติกร กล่าว